PM 2.5 ภาคเหนือยังวิกฤต เชียงราย แม่ฮ่องสอน ยังพบค่าฝุ่นมากกว่า 200 ไมโครกรัม

PM 2.5 ภาคเหนือยังวิกฤต เชียงราย แม่ฮ่องสอน ยังพบค่าฝุ่นมากกว่า 200 ไมโครกรัม

GISTDA เผย จุดความร้อนวานนี้ลดลงกว่าครึ่งเหลือเพียง 1,277 จุด ขณะที่ PM 2.5 ภาคเหนือยังวิกฤต เชียงราย แม่ฮ่องสอน ยังพบค่าฝุ่นมากกว่า 200 ไมโครกรัม

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 8 เมษายน 2566 ไทยพบ "จุดความร้อน" 1,277 จุด โดยมีเพื่อนบ้านอย่างพม่านำอยู่ที่ 8,226 จุด , สปป.ลาว 2,758 จุด , กัมพูชา 424 จุด, เวียดนาม 336 จุด, และมาเลเซีย 32 จุด

สำหรับ จุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบใน

  • พื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุดถึง 728 จุด
  • ป่าสงวนแห่งชาติ 375 จุด
  • พื้นที่เกษตร 76 จุด
  • พื้นที่เขต สปก. 50 จุด
  • พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 44 จุด
  • พื้นที่ริมทางหลวง 4 จุด

PM 2.5 ภาคเหนือยังวิกฤต เชียงราย แม่ฮ่องสอน ยังพบค่าฝุ่นมากกว่า 200 ไมโครกรัม

ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เช้าวันนี้ ก็ทางภาคเหนือยังคงน่าเป็นห่วงมากเช่นเคย เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 09:00 น. ที่ผ่านมาพบหลายจังหวัดมีค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับสีแดงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่จังหวัด

  • เชียงราย พุ่งถึง 248 ไมโครกรัม
  • แม่ฮ่องสอน 248 ไมโครกรัม
  • เชียงใหม่ 239 ไมโครกรัม
  • เชียงราย
  • แม่ฮ่องสอน
  • เชียงใหม่
  • ลำพูน
  • น่าน
  • พะเยา
  • ลำปาง
  • ตาก เป็นต้น

ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมภายนอกอาคารสถานที่เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่จะตามมา ในขณะที่กรุงเทพมหานครพบค่าคุณภาพอากาศของทุกเขตอยู่ในระดับดี

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน คือ PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ

ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

PM 2.5 ภาคเหนือยังวิกฤต เชียงราย แม่ฮ่องสอน ยังพบค่าฝุ่นมากกว่า 200 ไมโครกรัม