การปลูกฝังจริยธรรมด้วยการกระตุ้นให้ถกเถียงกับตนเอง | สิชล ยืนยัง

การปลูกฝังจริยธรรมด้วยการกระตุ้นให้ถกเถียงกับตนเอง | สิชล ยืนยัง

เคยสงสัยว่า ทำไมในประเทศที่มีเปิดกว้างแก่ศาสนาและความเชื่อมากยิ่งอย่างไทย ในแต่ละปีมานี้ถึงมีคนมีความเชื่อผิดบรรทัดฐานสากลของโลก หรือทำผิดข้อถือสาของศาสนาที่นับถือเสียเองเป็นจำนวนมากขึ้น

หากคิดว่าศาสนาสอนผิดนั้นคงไม่ใช่ เพราะทุกศาสนาสอนจริยธรรมและศีลธรรมที่มีลักษณาการหลักให้มนุษย์ยึดถือไม่ต่างจากบรรทัดฐานสากลของทุกวันนี้

จะว่าคนยุคพระศรีอาริย์ย่อมผิดเพี้ยนไปเองตามคำทำนายก็ดูจะขาดเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ หรือว่าแท้จริงแล้วการสอนจริยศาสตร์ในบ้านเรานั้นล้าสมัยไปแล้ว จึงไม่จับใจคนรุ่นใหม่เท่าที่ควร

พอดีกับที่สามีได้ไปอบรมวิชาหลักสูตรผู้นำกับกองทัพของนาโตชาติหนึ่งและได้กลับมาเล่าถึงประเด็นการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Wicked Problem) ของผู้นำกองทหารของชาตินั้นในสมรภูมิต่างถิ่นให้ฟัง

จึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่าการอบรมของชาติตะวันตกนั้นไปไกลมากและหากมีการอบรมจริยธรรมแบบนี้บ่อย ๆ ก็อาจจะเป็นการล้างสมองคนในชาติที่ยังยึดติดกับเรื่องเดิม ๆ ได้จริง ด้วยเครื่องมือง่าย ๆ คือเปิดวิดีโอให้ดูแล้วครุ่นคิดถกแถลง

โจทย์ที่บรรยายก่อนเปิดคลิปนั้นคือ แนวคิดทางจริยธรรมที่แท้จริงแล้วมีความหลากหลาย ไม่ได้มีแบบเดียวคือต้องรักชาติศาสนา หรือเคารพผู้ใหญ่ อย่างไม่ต้องคิดมาก

อย่างไรก็ตาม คุณค่าความดีงามทางศีลธรรมเหล่านี้ เมื่ออยู่ในภาวะวิกฤตที่มีปัจจัยที่มีใช่ศีลธรรมมาเข้าร่วมบงการชีวิตด้วย เราจะทำอย่างไร

ในคลิปได้เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อปี 1990 ทหารอังกฤษกองร้อยหนึ่งถูกส่งไปรักษาสันติภาพในนามนาโตทางภาคตะวันออกของแคว้นบอสเนีย

การปลูกฝังจริยธรรมด้วยการกระตุ้นให้ถกเถียงกับตนเอง | สิชล ยืนยัง

ซึ่งตอนนั้นยังไม่แยกประเทศ และเกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชน จนถึงขั้นกองกำลังติดอาวุธทั้งชาวมุสลิม โครแอตส์และเซิร์บ รบราฆ่าฟันศัตรูโดยไม่แยกว่าใครเป็นพลเรือนหรือทหาร

ทหารอังกฤษทำอะไรมากไม่ได้ เพราะกฎการปะทะ (Rule of engagement) ของนาโต้อนุญาตให้แค่ป้องกันตัวเองกับช่วยเหลือพลเรือนผู้บาดเจ็บเท่านั้น

แต่พวกเขาต้องเผชิญความยุ่งยากใจ ขณะระหว่างลาดตระเวนผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่งเมื่อพบว่ามีกองกำลังติดอาวุธของพวกหนึ่งกระจายกำลังออกเดินเคาะประตูบ้านคนต่างเผ่า คาดว่าจะเอาไปฆ่า

เพราะเคยเห็นศพที่ถูกล้างเผ่าพันธุ์มาเยอะแล้ว พวกเขาเจอชาวบ้านหลบซ่อนตามตัวตึก ซึ่งอาจถูกพบเห็นโดยฝ่ายฆ่าในอีกไม่นาน ในชั้นต้นพวกเขาเลือกที่จะอพยพผู้คน แต่เมื่อแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบก็พบว่าผิดกฎการปะทะ

หากจะขัดขืนคำสั่งก็เท่ากับเป็นการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในสงคราม พวกเขาจะโดนขึ้นศาลทหารและไล่ออกหมดเงินบำเหน็จบำนาญ

สุดท้ายพวกเขาก็เลือกที่จะรักษาอาชีพและปากท้องครอบครัวของตนไว้ก่อน ทิ้งผู้อพยพไว้ยกเว้นทารกคนหนึ่งซึ่งแม่อ้อนวอนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดขอให้เอาไปจากตรงนี้ด้วย

คลิปจบลงโดยระบุเพียงว่า พวกทหารทำตามคำสั่งก็จริง แต่ไม่สบายใจ และความขัดข้องนี้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกผิดบาปไปจนตลอดชีวิต

เมื่อถามทุกคนที่ดูคลิปว่าหากพวกเขาอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันนั้น พวกเขาจะทำอย่างไร

แทบทุกคนจะตอบว่าต้องช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ คนชรา ผู้หญิงและเด็กก่อน นั่นคือการตอบในขณะที่ตนเองอยู่ในสถานการณ์ปกติ นั่งนุ่มสบายอยู่ในห้อง หากอยู่ในเหตุการณ์จริงก็อาจไม่คิดอย่างนี้

แต่นั่นไม่สำคัญเท่า คลิปวิดีโอนี้ได้ปลูกฝังหลักคิดทางจริยธรรมให้คนที่ได้รับชมไปแล้ว

ในขณะที่การสอนของไทยยังเป็นไปในทิศทางท่องจำ อะไรที่ขัดกับค่านิยมของไทยถือเป็นเรื่องผิด ซึ่งมันก็อาจจะได้ผลเมื่อเผชิญกับปัญหาที่ง่ายต่อการรับมือกว่า หรือปัญหาที่มีคู่มือบอกอยู่แล้ว (Tame Problem)

เช่น เราต้องไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือไม่โกงกินคอรัปชั่น แต่เมื่อเกิดสถานการณ์อันซับซ้อนขึ้นมาเราก็อาจผิดศีลธรรมได้โดยไม่รู้สึกผิดอันใด เพราะเราไม่เคยถูกสอนให้ถกเถียงจริยธรรมกับตนเอง

เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงยังมีคนดูดายกับสงครามในยุโรปอยู่มากทั้งที่ปกติคนเหล่านี้ก็เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมและเป็นคนดีมีเมตตาไม่ได้เสแสร้ง

บ้างถึงขั้นเข้าข้างฝ่ายรุกรานเพราะเชื่อว่าฝ่ายรุกมีสิทธิ์ปกป้องผลประโยชน์ของตน คนของชาติที่ตั้งรับเป็นน้องไม่ควรดื้อกับพี่ ชาติตะวันตกหาเรื่องแทรกแซงชาติอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัว

เช่นเดียวกับการส่งทหารเข้าไปในอิรักและอาฟกานิสถาน พวกเขาไม่เคยตระหนักถึงความจำเป็นของการต้องรักษาบรรทัดฐานสากล ที่เรากำลังอยู่ในโลกทุกวันนี้ ที่จะต้องไม่มีการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์

การปลูกฝังจริยธรรมด้วยการกระตุ้นให้ถกเถียงกับตนเอง | สิชล ยืนยัง

ต้องเคารพในสิทธิมนุษยชน และเจตจำนงของประชาชน สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่าการถือความเป็นกลาง ที่ปล่อยให้ฝ่ายมีอำนาจข่มเหงฝ่ายด้อยอำนาจ หรือเพิกเฉยโดยคิดว่านั่นเป็นชะตากรรมของผู้อื่น ฉันไม่เกี่ยว

หากเราถูกสอนให้ถกเถียงกับตนเองทางจริยธรรมมาก ๆ เราจะต้องพบว่าตนเองจะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นโดยไม่ต้องมีใครมาชี้หน้าสอนสั่ง

เราอาจจำยอมปล่อยให้หลายเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ให้ผ่านไป แต่เราจะเสียใจและพยายามไม่ให้มันเป็นเช่นนั้นอีก ทั้งนี้เพราะจริยธรรมของเราจะแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน.