"ไฟไหม้รถตู้" 11 ศพ เตรียมจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต อัปเดตความคืบหน้าคดี

เหตุการณ์สลดกรณี "ไฟไหม้รถตู้" บนถนนมิตรภาพเขตพื้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ขาเข้า กทม.ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ ล่าสุด (31 มกราคม 2566) บริษัทประกันได้เตรียมจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต ขณะที่ผลการสืบสวนยังไม่พบหลักฐานว่ามีคู่กรณีที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ

อุบัติเหตุรถตู้โดยสารไม่ประจำทางได้ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกคว่ำชนกับการ์ดเรลจนทำให้มีน้ำมันรั่วไหลออกมาจนเกิดประกายไฟและเกิดเพลิงลุกไหม้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 11 รายและรอดชีวิต 1 ราย

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จ.นครราชสีมา เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการจ่ายเงินประกันอุบัติเหตุให้กับญาติของผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถตู้ที่อำเภอสีคิ้ว

นางสาวมณี ไวยภาษ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนของการจ่ายเงินประกันภัยให้กับญาติของทางผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้นั้นยังคงต้องรอผลการตรวจอัตลักษณ์จากทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำผลตรวจดังกล่าวมายื่นขอใบมรณะบัตรกับทางเทศบาลสีคิ้วเพื่อนำหลักฐานใบมรณะบัตรพร้อมหลักฐานอื่นๆ ไปยื่นขอรับเงินประกันกับทางบริษัทประกันต่อไป ซึ่งตอนนี้ทาง คปภ.ได้มีการประสานงานไปทางบริษัท มิตรแท้ประกันภัย สาขาอำนาจเจริญ เรียบร้อยแล้ว รอแค่เพียงผลพิสูจน์อัตลักษณ์เท่านั้น ซึ่งไม่ต้องรอผลทางคดีความ

ด้าน ร.ต.ท.นันทพงศ์ ดวงแก้ว ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า ในส่วนของการพิสูจน์อัตลักษณ์อยู่ในระหว่างกระบวนการทำงานของสถาบันนิติเวชวิทยา เบื้องต้น สถาบันนิติเวชแจ้งว่าจะใช้ระยะประมาณ 7 วันไม่รวมวันหยุดราชการ และตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้งข้อมูลความคืบหน้าของการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต

คาดว่า จะรู้ผลในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ หากผลตรวจจากสถาบันนิติเวชวิทยาแจ้งผลให้ทราบแล้วทางญาติผู้เสียชีวิตจะต้องเดินทางมาดำเนินเรื่องเอกสารบันทึกประจำวันและสอบปากคำในเรื่องของการได้รับชดใช้ของประกันภัยที่สถานีตำรวจภูธรสีคิ้วและที่ว่าการอำเภอสีคิ้วเพื่อให้ฝ่ายทะเบียน ออกใบมรณะบัตรเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาและยื่นขอรับเงินประกันต่อไป

ส่วนของความคืบหน้าของคดี ตอนนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานใหม่ ยังคงต้องรอผลตรวจจากสถาบันนิติเวชวิทยา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามที่จะสอบปากคำจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อให้มีความรัดกุมของรูปคดีมากที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตทั้งหมด หากยังไม่มีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีคู่กรณีที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ การสรุปคดีอาจลงความเห็นว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถตู้เอง