อัปเดต! ไฟไหม้คอนโดฯ ย่านเทพารักษ์ ข้างห้องช่วยดับไฟ ถูกไฟลวกใบหน้า

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 ธันวาคม 2565 ร.ต.อ.นิพนธ์ คงพูล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้คอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตร 4 หมู่ 7 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิง เทศบาลตำบลเทพารักษ์ และ เทศบาลใกล้เคียง รวม 6 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะคอนโดพักอาศัย สูง 12 ชั้น เหตุเกิดที่ ตึกที่ 6 ชั้นที่ 12 พบแสงเพลิง และ กลุ่มควัน จำนวนมากออกมาจากห้องต้นเพลิง บริเวณช่วงกลางตึก เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิง และ เจ้าหน้าที่ผจญเพลิง เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน

ท่ามกลางผู้ที่พักอาศัยอยู่ในตึกดังกล่าวที่กำลังทยอยออกมาจากตึก โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินเท้าขึ้นทางบันไดหนีไฟ ขึ้นไปยังชั้นต้นเพลิง ก่อนระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงทั้งจากด้านในตัวอาคาร และ จากอาคารข้างเคียง ประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้

เบื้องต้นเพลิงได้ไหม้ห้องที่เกิดเหตุดังกล่าวเสียหายทั้งหมด และ มีผู้พักอาศัยที่เข้าไปช่วยดับไฟได้รับบาดเจ็บ โดนไฟลวกที่ใบหน้า 1 ราย และ มีผู้สำลักควัน 1 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

จากการสอบถามนายณรงค์ โพธิ์สัมทธิ์ อายุ 28 ปี ผู้พักอาศัยที่ตึกดังกล่าว เล่าว่า ตนเองพักอาศัยอยู่ที่ชั้นที่ 8 ของตึกดังกล่าว ตนเองรู้ว่ามีไฟไหม้จากในไลน์กลุ่มของตึกดังกล่าว ก่อนที่ตนเองจะวิ่งลงมา โดยที่ตนเองไม่ได้ยินเสียงเตือน หรือ เสียงอะไรเลย โดยจะมีการแจ้งเตือนลูกบ้านทางไลน์อย่างเดียว

ส่วนทางด้านนิติบุคคลของทางตึก เผยว่า ตนเองทราบเรื่องจากลูกบ้านชั้นที่ 12 ซึ่งเป็นชั้นที่เกิดเหตุ โทรศัพท์มาบอกว่ามีไฟไหม้ชั้นที่ 12 ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ตึกจึงรีบขึ้นไปดู ก็พบว่าที่ชั้น 12 มีควันเต็มไปหมดแล้ว ตนเองจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นห้องดังกล่าวเป็นห้องที่ไม่มีคนพักอาศัยอยู่ แต่มีคนบุกรุกเข้าไปพักอาศัย

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ตนเองยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง และ อพยพผู้พักอาศัยออกจากตึกทั้งหมดแล้ว ส่วนที่ลูกบ้านบอกว่าไม่ได้ยินเสียงอารามดัง นั้น ตนเองพยายามเปิดแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไรทำไมมันไม่ดัง แต่ที่ตึกมีอุปกรณ์เตือน และ ป้องกันพร้อมหมด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้เกี่ยวข้องไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังฐานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจพื้นที่ในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป