ศุลกากรภาค 4 จับเนื้อหมูเถื่อนแช่แข็ง 12 ตัน มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท

ศุลกากรภาคที่ 4 จับกุมชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง ถิ่นกำเนิดต่างประเทศจำนวน 12,000 กิโลกรัม มูลค่ารวม 2,5000,000 บาท

เพื่อให้ภารกิจของกรมศุลกากรในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางศุลกากรและปกป้องสังคมสัมฤทธิ์ผลตามวิสัยทัศน์ของกรมศุลกากร นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีฯ ได้มีข้อสั่งการให้นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ดำเนินการปราบปรามจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากรและสินค้าที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างเข้มงวด โดย นายธนเสฏฐ์ พรพิชัยดำรงค์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ศภ.4 ได้มอบหมายให้นายเริงพจน์ อารีย์กุล หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สคศ. ศภ.4 และเจ้าหน้าที่ ฝปป. เข้มงวดในการปราบปรามสิ่งของผิดกฎหมายและการลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรที่เป็นภัยต่อประชาชนอย่างเคร่งครัด

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 กับพวก ร่วมกับด่านกักกันสัตว์สงขลา ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์บรรทุก 22 ล้อ ยี่ห้อ UD TRUCK สีขาว ส่วนหัวติดแผ่นป้ายทะเบียน 70-2004 สระแก้ว และส่วนหางติดแผ่นป้ายทะเบียน 70-2179 สระแก้ว บริเวณริมทางหลวงชนบท 2004 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา

ผลการตรวจค้นพบ ชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง มีถิ่นกำเนิดต่างประเทศ บรรจุจำนวน 12,000 กิโลกรัม มูลค่ารวม 2,500,000 บาท บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกมีข้อความภาษาต่างประเทศ โดยไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติพิธีการศุลกากรการกระทำดังกล่าว อาจเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 และ/หรือ มาตรา 247 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงเป็นของอันพึงต้องริบตามมาตรา 166 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 เจ้าของผู้มีสิทธิหรือผู้ครอบครอง อาจมีความผิดตามมาตราดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ยึดของดังกล่าวพร้อมรถยนต์บรรทุก 22 ล้อ ยี่ห้อ UD TRUCK สีขาว ส่วนหัวติดแผ่นป้ายทะเบียน 70-2004 สระแก้ว และส่วนหางติดแผ่นป้ายทะเบียน 70-2179 สระแก้ว (ยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด) พร้อมควบคุม ตัวผู้ต้องหาส่งด่านศุลกากรสงขลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป