"แม่น้ำยม" ยังวิกฤต ไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของอำเภอเมือง

"แม่น้ำยม" ยังวิกฤต ไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของอำเภอเมือง

"แม่น้ำยม" ยังวิกฤต ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ไม่สามารถสัญจรไปมาเข้าออกพื้นที่ได้ และยังคงต้องจับตาและเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจะยังมีน้ำจากทางตอนเหนือไหลมาสบทบ

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 65 ระดับน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นถนนเลียบแม่น้ำในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย ระยะทางประมาณ 500 เมตรทำให้ไหลล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณริมน้ำยมนับแต่กลางดึกคืนที่ผ่านมา จนทำให้ ไม่สามารถสัญจรไปมาเข้าออกพื้นที่ได้เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางแก้วต้องใช้เรือท้องแบนเข้าไปสำรวจและให้การช่วยเหลือพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหาร , ป่าไม้ และ อบต.ปากแควต้องนำเชือกมาผูกกับเสาไฟฟ้าตามทางเลียบถนนเพื่อให้ประชาชนนั้นใช้จับดึงเดินทางเข้าออกมาภายนอกเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวเพื่อป้องกันอันตราย

ล่าสุด ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมยังไม่พ้นวิกฤตโดยยังคงเอ่อล้นเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ อ.เมืองสุโขทัย โดยเฉพาะหมู่ที่ 1 ตำบลปากแคว การเดินทางเข้าออกของชาวบ้านกว่า 10 หลังคาเรือน ต้องอาศัยเรือท้องแบนของเจ้าหน้าที่กู้ภัยบางแก้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การช่วยเหลือ อีกทั้งเจ้าหน้าที่และกู้ภัยยังได้นำอาหารและน้ำดื่มไปมอบให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย

อย่างไรก็ตามมีรายงานระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่านพื้นที่อำเภอเมืองสุโขทัยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่จุดตรวจวัดระดับน้ำสถานี Y4 ด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยระดับน้ำสูง 7.92 เมตร ขณะที่ตลิ่งที่ทำเสริมเพิ่มขึ้นมาสูง 8.15 เมตร อัตราการไหลผ่านที่ 479.10 ลบ.ม. / วินาที ยังคงต้องจับตาและเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจะยังมีน้ำจากทางตอนเหนือไหลมาสบทบอยู่

ขณะเดียวกันนายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เร่งประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ที่ ชั้น5 ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย เพื่อรับมือกับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ได้รับผลกระทบหลายหลังคาเรือน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งนำกระสอบทราย ทำพนังกั้นน้ำ ในพื้นที่ชุมชนวังหิน บริเวณ สะพานพระแม่ย่า ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย ที่น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยได้รับกำลังสนับสนุนจาก ร้อย บก.บชร.3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ คอยเฝ้าระวังและเร่งนำกระสอบทรายมากั้น และบริเวณ หมู่ที่ 1 ตำบลปากแคว ซึ่งเป็นจุดที่พนังดินพัง ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย โดยได้กำลังสนับสนุนเข้าช่วยเหลือจาก พัน ส.23 บชร.3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ
 

ทั้งนี้ จากรายงานปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูบ้านหาดสะพานจันทร์ ด้านหน้าวัดได้ที่ 1,054 ลบ.ม./วินาที จากเมื่อวานสูงสุดวัดได้ที่ 1,189 ลบ.ม./วินาที โดยทางศูนย์บัญชาการฯยังคงมีการเตรียมการเฝ้าระวังปริมาณน้ำเหนือที่จะมาจากจังหวัดแพร่ ที่อาจจะเพิ่มขึ้นและปริมาณฝนที่ยังคงตกในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยได้กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่ ตรวจสอบผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน และได้จัดตั้งโรงครัว บริเวณอาคารอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย เพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ในเบื้องต้นต่อไป