ผันผวนระยะสั้นจากภาวะซื้อมากเกินและ XD เน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว

ผันผวนระยะสั้นจากภาวะซื้อมากเกินและ XD เน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว

ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เป็นบวกต่อบรรยากาศลงทุนเอเชีย

ศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.35 แสนราย ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 7.33 แสนราย และลดลงมากเทียบ ก.ค.ที่ 9.43 แสนราย แม้ระยะสั้นจะกดดันต่อหุ้นสหรัฐฯ แต่ทิศทางดังกล่าวทำให้ตลาดลดความกังวลเกี่ยวกับการปรับลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (QE tapering) ที่คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณผ่านการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน 21-22 ก.ย.นี้ สัญญาณดังกล่าวสะท้อนผ่านการอ่อนค่าลงของเงินเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเราประเมินจะเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศลงทุนหุ้นเอเชีย ขณะที่ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นดีดตัวแรงจากข่าวการลาออกของนายกรัฐมนตรีสุงะ ซึ่งตลาดคาดผู้กลับรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมีการใช้มาตรการที่ผ่อนคลายมากขึ้น การฟื้นเดนของหุ้นญี่ปุ่นจึงถือเป็นปัจจัยบวกเฉพาะตัว

ในประเทศยังมีแนวโน้มผันผวนจากภาวะซื้อมากเกินและการขึ้นเครื่องหมาย XD การเคลื่อนไหวหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มผันผวนจาก สัญญาณซื้อมากเกิน (Overbought) ที่กดดันภาพรวมดัชนี ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่จำนวนมากจะมีการทยอยขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิ์ในเงินปันผล (XD) ซึ่งจะทำให้เกิดแรงย่อสลับในหุ้นหลายตัว ทำให้หุ้นไทยมีแนวโน้มลดความร้อนแรงและเคลื่อนไหวออกข้าง (sideways) มากขึ้น แต่บรรยากาศและโมเมนตัมการเก็งกำไรโดยรวมไม่เสียไป กลยุทธ์เน้นการเลือกเก็งกำไรรายตัว

การลดราคาน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย เป็นบวกกัลกลุ่มโรงกลั่น Saudi Aramco ประกาศปรับลดพรีเมี่ยมราคาขายน้ำมันมายังเอเซียลงเหลือ 2 เหรียญ/บาร์เรล (ลดลง 1.2 เหรียญฯ ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.5 เหรียญฯ) เป็นมุมมองที่ลดความร้อนแรงของราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามเป็นบวกกับทิศทางของค่าการกลั่นและกลุ่มโรงกลั่น โดยเรายังชอบ TOP (ซื้อ ราคาเหมาะสม 57 บาท)

ธีมการลงทุนระยะสั้น กลุ่มสื่อสารและ REITs ยังเป็นแหล่งพักเงินที่ดี ในช่วงที่ตลาดกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงการปรับประมาณการผลประกอบการที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เรามองทยอยสะสม ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART / ทยอยสะสมสาธารณูปโภค GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW / กลุ่มอาหารและเกษตร TVO, TU, CPF, GFPT, TWPC / เก็งกำไร กลุ่มเดินเรือ PSL, TTA, RCL / เก็งกำไรกลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP, BGC / เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนกลุ่มเปิดเมือง BBL, SCB, KBANK, CPN, CRC, MINT (มีร.ร.ในตปท.), SHR (มีร.ร.ในตปท.) / เก็งกำไรทางเทคนิค MDX, TH, VNG, SKN, WIIK, FSMART, MFEC, KTC, ACE

ภาพรวมกลยุทธ์: ทรงตัวและยังมีโอกาสแกว่งขึ้น 1,660-1,680 จุด ธีมเก็งกำไรเด่นยังเป็นการหมุนสลับหุ้นเปิดเมือง กับกลุ่มปลอดภัยอย่างสื่อสาร ขณะที่ภาวะซื้อมากเกินของหุ้นขนาดใหญ่ในระยะสั้น หนุนแรงเก็งกำไรหุ้นเล็กขึ้นมาสลับ อย่างไรก็ตามควรกำหนดจุดตัดขาดทุนและแบ่งทำกำไรทุกครั้ง//หุ้นแนะนำ: CRC*, ADVANC*, BANPU*, EA*

แนวรับ: 1,643/ แนวต้าน : 1,660-1,680 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐวางแผนลงทุน $6.5 หมื่นล้าน รับมือโรคระบาดใหม่ในอนาคต. คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยแผนลงทุนมูลค่า $6.5 หมื่นล้าน เพื่อช่วยประเทศในการต่อสู้กับภัยคุกคามทางชีววิทยาครั้งใหม่ หลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง

นายกฯออสเตรเลียเปิดการเดินทางระหว่างรัฐ. นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เปิดให้มีการเดินทางระหว่างรัฐภายในประเทศในช่วงสิ้นปีแม้ว่าจะยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองหลัก ๆ อยู่ก็ตาม

LHFG. CTBC แบงก์อันดับหนึ่งของไต้หวัน ซื้อหุ้น LHFG เพิ่มอีก 2.32 พันล้านหุ้น คิดเป็น 10.99% ราคาเฉลี่ย 1.80 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินกว่า 4.2 พันล้านบาท

CPN ได้สิทธิ์พัฒนาที่ดินหัวมุมแยกปทุมวัน – CPN ชนะการประมูลพัฒนาที่ดินสยามสแควร์ 7 ไร 31 ตรว. บริเวณหัวมุมแยกปทุมวัน

TIPH ตลท.รับ TIPH เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแทน TIP โดยจะเริ่มซื้อขาย 7 ก.ย.

ประเด็นติดตาม: -  9 ก.ย. – ประชุม ECB / 15 ก.ย. – ประกาศผู้ผ่านเทคนิคไฟฟ้าชุมชนเพิ่ม

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)