เหลื่อมล้ำชัด! สหรัฐ‘ทิ้งวัคซีน’อย่างน้อย 15 ล้านโดสตั้งแต่ มี.ค.

เหลื่อมล้ำชัด! สหรัฐ‘ทิ้งวัคซีน’อย่างน้อย 15 ล้านโดสตั้งแต่ มี.ค.

เอ็นบีซีนิวส์รายงาน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.สหรัฐทิ้งวัคซีนป้องกันโควิดไปแล้วอย่างน้อย 15.1 ล้านโดส มากกว่าที่เคยรับรู้กันและเป็นไปได้ว่ายังต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่หลายประเทศยังไม่ได้ฉีด ที่ฉีดก็น้อยมาก

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) พบว่า บริษัทวาลกรีนส์ทิ้งวัคซีนมากที่สุดเกือบ 2.6 ล้านโดสซีวีเอสทิ้ง 2.3 ล้านโดส วอลมาร์ท 1.6 ล้านโดส และไรท์เอด 1.1 ล้านโดส

ข้อมูลนี้ร้านขายยา รัฐ หรือผู้ให้บริการวัคซีนให้รายงานต่อซีดีซีเองจึงยังไม่ครอบคลุม เพราะบางรายก็ไม่ได้รายงาน และไม่แจ้งเหตุผลว่าทำไมถึงต้องทิ้งวัคซีน โดยทั่วไปการที่ศูนย์ฉีดระบุว่าวัคซีนใช้ไม่ได้ อาจมีสาเหตุมาจากขวดแตก เกิดความผิดพลาดขณะเจือจางวัคซีน ตู้แช่ไม่ทำงาน มีวัคซีนในขวดเกินจำนวนคน หรือขวดบรรจุวัคซีนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ส่วนเดือน มิ.ย.มีวัคซีนไม่ได้ใช้อย่างน้อย 4.4 ล้านโดส ก.ค.4.7 ล้านโดส มากกว่าเดือน มี.ค. เม.ย. และ พ.ค.รวมกัน

ข้อมูลวัคซีนใช้ไม่ได้จากแต่ละรัฐยังไม่มากเท่าที่ร้านขายยารายงาน โดย 4 รัฐที่ทิ้งวัคซีนมากกว่า 200,000 โดส ได้แก่ เท็กซัส 517,746 โดส นอร์ทแคโรไลนา 285,126 โดส เพนซิลเวเนีย 244,214 โดส และโอคลาโฮมา 226,163 โดส

อย่างไรก็ตามวัคซีนที่เสียไปถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยนิดเมื่อเทียบกับวัคซีนที่ฉีดไปแล้วในสหรัฐ นับถึงวันที่ 31 ส.ค. สหรัฐแจกจ่ายวัคซีนไปทั่วประเทศแล้วกว่า 438 ล้านโดส และนับถึง 3 ส.ค. แจกจ่ายให้ประเทศอื่นเพิ่มอีก 111.7 ล้านโดส

ข้อมูลวัคซีนใช้ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่โควิดสายพันธุ์เดลตากำลังระบาดทั่วสหรัฐ ทำให้ประชาชนต้องเร่งมาฉีดกันมากขึ้น และรัฐบาลมีแผนฉีดเข็ม 3 ให้กับคนที่ฉีดครบแล้ว ขณะที่อีกหลายประเทศทั่วโลกยังไม่ได้ฉีด หรือที่ฉีดแล้วก็ทำได้น้อยมาก

ข้อมูลใหม่ชี้ด้วยว่า วัคซีนที่สหรัฐทิ้งไปมากเกินกว่าประเทศยากจนบางประเทศใช้ฉีดประชากรทั้งหมดได้ ตัวอย่างเช่น ประเทศจอร์เจียที่โควิดกำลังระบาดหนัก ฉีดวัคซีนไปแค่ 1.1 ล้านโดสจากประชากร 4.9 ล้านคน หรือเนปาล ประชากร 30.4 ล้านคน ฉีดไปแค่ 9.7 ล้านโดส

ชารีฟาห์ เซกาลาลา รองศาสตราจารย์ด้านกฎหมายสุขภาพโลก มหาวิทยาลัยวอร์วิคของอังกฤษ ผู้ศึกษาความเหลื่อมล้ำในโลกติดเชื้อ กล่าวว่า หลายประเทศในซีกโลกใต้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ในทวีปแอฟริกายังฉีดไม่ถึง 10% ถือเป็นความเหลื่อมล้ำอย่างใหญ่หลวงและเป็นปัญหาอย่างแท้จริง

ความต้องการวัคซีนในสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือน ส.ค. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อและเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมาก

เพราะสายพันธุ์เดลตา แต่สหรัฐยังปล่อยให้มีวัคซีนไม่ได้ใช้อย่างน้อย 3.8 ล้านโดสในเดือน ส.ค.