หุ้นสายการบินชีพจรกระเตื้อง นับถอยหลังเปิดเมืองเต็มรูปแบบ

 หุ้นสายการบินชีพจรกระเตื้อง นับถอยหลังเปิดเมืองเต็มรูปแบบ

ระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ไทยเผชิญการระบาดโควิด จนทำให้ต้องใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” สลับกับผ่อนคลายไปมาถึง 3 รอบ

จนทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนในการเดินทางและใช้ชีวิตประจำลดลงทันตาเห็น แต่หลังจากวันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นการกลับมาเปิดเมืองและคลายกิจกรรมอีกครั้ง และหมายถึงโอกาสฟื้นตัวของธุรกิจ

ธุรกิจที่อิงธีมเปิดเมืองและอยู่ในอาการโคม่า คือ  “สายการบิน” ที่เรียกได้ว่ารายได้หายวับไปกับการล็อกดาวน์ แต่รายจ่ายยังคงอยู่จนทำให้ทุกรายต่างต้องดิ้นรนเอาตัวรอด หาออกซิเจนกระตุ้นลมหายใจมาตลอด

สถานการณ์ของทุกสายการบินงัดสารพัดกลยุทธ์เอาตัวรอดมาใช้ ทั้งมาตรการลดต้นทุน ลดคน Leave without pay ชั่วคราว ลดขนาดองค์กร ตัดขายสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินออกไป ขอเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อผ่อนผันค่าเช่าเครื่องบิน ขอเลื่อนชำระหนี้เงินต้น และขอเพิ่มวงเงินเพื่อนำมาให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัท

จนมาตรการสุดท้ายคือการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเต็มรูปแบบ ด้วยการยื่นล้มละลายเพื่อจัดการปัญหาหนี้สิน แม้จะเป็นข่าวร้ายต่อธุรกิจแต่สามารถกลับมาดำเนินการภายใต้ฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น

วันที่ 1 ก.ย. 2564 ครม.อนุมัติผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เริ่ม 1 ก.ย. 2564 หลังมีมติไม่ปรับพื้นที่สีแต่มีการปรับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด โดยมีการอนุญาตให้เปิดกิจการและกิจกรรมเพิ่มเติมตามความพร้อมและความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด โดยมีรายละเอียด

กิจกรรมที่ผ่อนคลอยรวมถึงสายการบินเตรียมเปิดให้บริการเที่ยวบินในประเทศ ศบค. ยังผ่อนปรนให้สาย การบินโดยมีการปรับเพิ่มอัตราการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบินจาก 50% เป็ น 75% ส่วนบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบินยังคงงดให้บริการ

โดยสายการบินใน ประเทศจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ 1 ก.ย. 2564 รวมทั้งสามารถเดินทางข้ามจังหวัดสีแดงเข้มได้เดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น

ขนส่งสาธารณสุขต้องจำกัดจำนวนผู้ โดยสารไม่เกิน 75% สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และห้ามรับประทานอาหาร ขณะที่การเดินทางทำงานของแรงงาน ให้ใช้ระบบ seal route ตามมาตรการ Bubble and Seal

ตามกำหนดดังกล่าวทำให้ธุรกิจสายการบินเตรียมทยอยออกมาเปิดให้บริการเส้นทางการบินอีกครั้ง บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA จะเปิดให้บริการเที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 564 เป็นต้นไปใน 5 เส้นทางบิน คือ กรุงเทพฯ - สมุย (ไป-กลับ) ,กรุงเทพฯเชียงใหม่ (ไป-กลับ) ,กรุงเทพฯ - ภูเก็ต (ไป-กลับ) ,กรุงเทพฯ - ลำปาง (ไป-กลับ) ซึ่งเริ่มให้บริการวันที่ 9 ก.ย.2564 และกรุงเทพฯ-สุโขทัย (ไป-กลับ) เริ่มให้บริการวันที่ 16 ก.ย.2564

ส่วนบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ AAV จะกลับมาเปิดให้บริการภายในประเทศ 11 เส้นทาง จากดอนเมืองไป เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี นครพนม และร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. 2564 พร้อมทั้งจัดโปรโมชั่นกระตุ้นเดินทางด้วยการให้ส่วนลดทุกทีนั่ง 30 % ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์เพื่อเดินทางได้ 3 ก.ย. -31 ธ.ค. 2564

และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการตามศาลล้อทละลายกลางและเจ้าหนี้เห็นชอบ ด้วยการกำหนดเปิดทำการบินเดือนก.ย. นี้เช่นกัน พร้อมแผนปีนี้ที่จะเปิดทำการบินที่สนามบินเบตง จำนวน 2 เส้นทาง คือ ดอนเมือง-เบตง และหาดใหญ่-เบตง ก่อนจะมีการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ของ NOK ด้วยการปรับจากสายการบินโลวคอสต์ เป็นพรีเมี่ยมแอร์ไลน์ ฟูลเซอร์วิส สิ้นปี 64

อย่างไรก็ตาม การกลับมาทำการบินอีกครั้งของสายการบินยังมีความเสี่ยงรอบด้าน จากการกำหนดมาตรการการใช้บริการที่ยังเข้มงวด ความวิตกกังวลของผู้ใช้บริการทำให้อาจยังไม่กล้าเดินทาง ซึ่งปี2564 กลุ่มสายการบินยังอยู่ในโหมดรอฟื้นตัวอย่างเต็มทีในปี 2565