กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ (30 ส.ค.64)

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ (30 ส.ค.64)

30 สิงหาคม – 3 กันยายน: แนวโน้มปรับขึ้นต่อ

ความคาดหวังต่อการผ่อนคลายมาตรการ และกระแสเงินทุนไหลเข้าที่แข็งแกร่งจะหนุนให้ตลาดขึ้นต่อ

ในสัปดาห์ที่แล้ว (23-27 สิงหาคม) ตลาดหุ้นไทยยังคงขยับขึ้นต่อเนื่อง โดยยืนได้อย่างมั่นคงเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 จุด ซึ่งการที่ตลาดขยับขึ้นมากกว่าที่เราคาดไว้เป็นเพราะ i) ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ii) ศบค. ตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการคุมโรคระบาดบางส่วนโดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน และ iii) ตลาดโลกสะท้อนประเด็นการปรับลดขนาด QE ของ Fed ไปค่อนข้างมากแล้ว นอกจากนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมากยังทำให้เกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากในสัปดาห์ที่แล้วด้วย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นาย Powell ประธาน Fed กล่าวออกมาอย่างชัดเจนในช่วงที่มีการประชุม Jackson Hole forum ว่า Fed น่าจะเริ่มลดขนาด QE ในปีนี้ แต่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังไม่ขยับขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เราประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะเริ่มขยับขึ้นในช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566

สำหรับในสัปดาห์นี้ เราคาดว่าดัชนี SET จะยังคงแกว่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดหุ้นไทยน่าจะตอบรับในเชิงบวกต่อการปรับขึ้นของตลาดโลกเมื่อคืนวันศุกร์ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดได้สะท้อนประเด็นการลดขนาด QE ของสหรัฐไปเรียบร้อยแล้ว เราคิดว่านักลงทุนควรจับตาตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคเดือนกรกฎาคมของสหรัฐ อย่างเช่นดัชนี ISM ในภาคการผลิตและการจ้างงานนอกภาคเกษตร (non-farm payrolls) ซึ่งจะออกมาในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินว่าโมเมนตั้มของเศรษฐกิจสอดรับกับการลดขนาด QE ในระยะต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าเหตุการณ์ในประเทศจะมีอิทธิพลต่อตลาดมากกว่า เช่นเดียวกับในสัปดาห์ที่แล้ว โดยการผ่อนคลายมาตรการคุมโรคระบาดลงบางส่วนซึ่งจะเริ่มในวันพุธเป็นสัญญาณบวกต่อกิจกรรมทางธุรกิจในระยะต่อไป ซึ่งจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคนภายในเดือนกันยายนดังที่เราระบุเอาไว้ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์ฉบับวันที่ 27 สิงหาคม 2564

ติดตามสถานการณ์ COVID-19 หลังการผ่อนคลายมาตรการบางส่วน และกระแสเงินลงทุนในหุ้นไทย

(+) การผ่อนคลายมาตรการบางส่วน และสถานการณ์ COVID-19 หลังจากนั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวกิจกรรมทางธุรกิจ และยอดผู้ติดเชื้อใหม่อย่างใกล้ชิด หลังจากที่การผ่อนคลายมาตรการเริ่มมีผลในวันพุธนี้ เรามองว่ายังมีความเสี่ยงที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันจะเพิ่มขึ้นอีกจากการผ่อนคลายมาตรการบางส่วน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการเร่งกระจายวัคซีนอย่างต่อเนื่อง เราจึงมองว่าจำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตน่าจะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

(0) ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน และกระแสเงินลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกส่วนใหญ่ผันผวนมากในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแม้จะมีการส่งสัญญาณลดขนาด QE ในขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่มีสัญญาณหลายตัวที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์โรคระบาดในประเทศผ่านจุดที่หนักที่สุดไปแล้ว ทั้งนี้ หากเงินบาทไม่แข็งค่าต่ออาจจะทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นชะลอตัวลง ส่งผลให้ดัชนี SET ผันผวนได้หลังจากที่ปรับขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา

เน้นหุ้นกลุ่มที่คุ้นเคยในธีม re-opening และหุ้น conventional large caps

จากกระแสเงินทุนไหลเข้าที่แข็งแกร่งในระยะสั้น และความคาดหวังด้านบวกต่อประเด็นการผ่อนคลายมาตรการบางส่วน เราแนะนำให้นักลงทุนยังคงเน้นหุ้นในธีม re-opening และ conventional large caps โดยในหุ้นกลุ่มหลักเราแนะนำ KBANK*, CPALL*, AOT* และ CPN* ซึ่งน่าจะได้อานิสงส์จาก
สถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายลง และ กิจกรรมทางธุรกิจที่ดีขึ้น สำหรับหุ้นขนาดกลาง เราแนะนำ MAJOR*, BEM* และ SPA