Sideways Down (27 ส.ค.64)

Sideways Down (27 ส.ค.64)

เก็งกำไร ILM CAZ ZEN

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวรับ 1592 / 1585 จุด แนวต้าน 1615 / 1620 จุด หุ้นแนะนำ เก็งกำไร ILM CAZ ZEN สัญญาณทางเทคนิคยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวต้านต่อไปที่ 1615 / 1630 จุด แต่ในระยะ 1-2 วัน อาจมีการย่อตัว (ปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ) หลังปรับขึ้น 2 สัปดาห์มากกว่า 5.6% (+กว่า 80 จุด) จากระดับต่ำสุดรอบสามเดือนที่ 1512.28 จุด เมื่อวันที่ 16 ส.ค. (ต่างชาติวานนี้กลับมาขายสุทธิเล็กน้อย 343 ล้านบาท หลังจากซื้อสะสม 3 วัน กว่า 7.8 พันล้านบาท)

ประเด็นสาคัญวันนี้ 1. ผลประชุมศบค. ชุดใหญ่ต่อการออกมาตรการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 ส.ค. 2. สัญญาณ QE Tapering จะมีการกล่าวถึงหรือไม่ในงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล (ตลาดหุ้นที่ผ่านมาปรับสูงขึ้นเพราะคาดว่าจะไม่มีการส่งสัญญาณทำ QE Tapering เร็ว ๆ นี้)

ส่วนปัจจัยอื่น ๆ คือ 1. สภาผู้แทนสหรัฐฯ กำลังเร่งพิจารณาผ่านร่างกฎหมาย Spending Bill ขนาด USD3.5Trn เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ 2. Monetary Risk หลังจากธนาคารกลางเกาหลีใต้เป็นธนาคารแรกที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายวานนี้ (การเร่งออกมาตรการคุมเข้มทางการเงิน อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเพิ่มความเสี่ยงต่อความผันผวนทางการเงิน โดยเฉพาะใน EM)

ประเด็นอื่นๆ ที่ต้องติดตามวันนี้

- วันสุดท้ายของงาน Thailand Focus 2021 (คาดส่งผลบวกต่อหุ้นรายหลักทรัพย์)
- จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19: ตัวเลข ณ วันที่ 26 ส.ค. พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันรวม (ATK + จำนวนที่รายงานรายวัน) อยู่ที่ 20,840 ราย ซึ่งสูงกว่า 234 ราย เมื่อเทียบกับจำนวนผู้หายป่วย 20,606 ราย ซึ่งต่างจากวิธิคำนวณแบบไม่รวม ATK ที่พบว่าจำนวนผู้หายป่วย > จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 10

- Opportunity Day ได้แก่ BCPG TVD ASP GGC PTG AS JKN

- XD Effect มีผลกระทบต่อดัชนีฯ วันนี้ -1.11 จุด นำโดย AMATA ASP BROOK CBG CCET DRT EGCO FPI HTECH IVL JUBILE KCAR KUN LALIN MBKET MEGA PSH PSL RCL SPCG TFG TKN TMT TNITY TOA TSR TVO

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1595.69 – 1603.99 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1601.91 จุด +1.42 จุด วอลุ่มซื้อขาย 8.12 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +1.74% เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +1.23% สื่อและสิ่งพิมพ์ +0.80% หุ้น ปรับขึ้น >4% ได้แก่ 7UP INTUCH RPC TSTH AIE ITEL AMC CPI VPO DCON ILM ARIN GSC ICN INOX CAZ หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ B ACAP SKN QTC

- ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นำลงโดยกลุ่มพลังงาน DJIA -0.54%(-192.38 จุด) S&P500 -0.58% Nasdaq -0.64% เพราะวิตกเหตุระเบิดที่บริเวณสนามบินในกรุงคาบูล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย และบาดเจ็บกว่า 140 ราย รวมถึงประธานเฟด สาขาแคนซัส Esther George , สาขาเซนต์หลุยส์ Bullard, สาขาดัลลัส Caplan เผยว่าเฟดควรเริ่มปรับลดวงเงิน QE โดยเร็ว ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง CAC40 -0.16% DAX -0.42% FTSE100 -0.35% นำลงโดยกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มเดินทาง เพราะเยอรมนีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นเดือน ก.ย. ลดลง (-1.2 Vs เดือน ส.ค.-0.4) และรอฟังสุนทรพจน์ประธานเฟดคืนนี้

+/- ราคาน้ำมันดิบปิดร่วง ส่วนทองฟื้นตัวเล็กน้อย: ราคาน้ำมันดิบโลก WTI -USD0.94 ปิดที่ USD67.42/บาร์เรล Brent -USD1.18 ปิดที่ USD71.07/บาร์เรล กังวลอุปสงค์โลกลดลง จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 การแข็งค่าของเงิน USD และการผลิตน้ำมันดิบที่เม็กซิโกกลับมาเพิ่มขึ้น 7.1 หมื่นบาร์เรล และอีก 1.1 แสนบาร์เรล/วัน ในสุดสัปดาห์นี้ หลังการผลิตหายไป 5 แสนบาร์เรล จากเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมัน ส่วนราคาทองคำปิดบวกเล็กน้อย +USD4.20 ปิดที่ USD1,975.20/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

+/- Thailand: COVID-19 ไทย-เราคาดว่าการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์จะเป็นเพียงบางธุรกิจ และแบบมีเงื่อนไข ทำให้หลายธุรกิจยังไม่สามารถเปิดได้ตามปกติจนกว่าการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 50% ของจำนวนประชากร

+/- QE Tapering: แม้โบรกเกอร์ต่างชาติหลายแห่งไม่คาดว่าประธานเฟดจะส่งสัญญาณ QE Tapering ในงานสัมนาวันนี้ แต่การกังวลต่อ QE Tapering จะเพิ่มมากขึ้นในการประชุมเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. จะเป็นปัจจัยถ่วงตลาดในเดือน ก.ย.

+/- USA: สภาล่างเริ่มกลับมาพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ โดยตลาดยังวิตกต่อ 9 ส.ส. พรรคเดโมแครตในสภาล่างที่อาจจะไม่โหวตอนุมัติ (เสียงของส.ส.ในสภาล่างของพรรครัฐบาลมี 221 ต่อ 211 คน)

- South Korea: (Monetary Risks) ธนาคารกลางเกาหลีใต้เป็นธนาคารกลางแห่งแรกในเอเชียที่มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 0.75% (ตามคาดการณ์)

- Thailand: การเมือง-กาหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 5 รัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. - 3 ก.ย. ลงมติวันที่ 4 ก.ย.

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: KTC AMATA ILM

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ILM CAZ ZEN

Derivatives: แนะปิด Long S50U21 ทำกำไรเหนือ 960 จุด ไม่ถือข้ามสัปดาห์ (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)