"ณัฐวุฒิ"เปิดเกมตั้ง"องค์กรใหม่" เคลื่อนม็อบ-เคลื่อนพรรค

"ณัฐวุฒิ"เปิดเกมตั้ง"องค์กรใหม่" เคลื่อนม็อบ-เคลื่อนพรรค

“ณัฐวุฒิ-จาตุรนต์” จึงเหมือนแยกกันเดิน แต่จุดหมายเดียวกัน จุดหมายที่ปักหมุดเอาไว้ที่การสร้างพรรคการเมือง ที่มีชื่อว่า “พรรคเส้นทางใหม่” ลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อโค่นล้ม “ระบอบประยุทธ์” ของจริง

“คาร์ม็อบ” ครั้งสุดท้าย แต่ไม่ใช่ครั้งท้ายสุดที่ “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะออกมานำม็อบขับไล่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่ง

เช่นเดียวกับ “บก.ลายจุด” สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ก่อตั้งคาร์ม็อบ ที่ประกาศชัดเจนว่า ทิศทางการเคลื่อนทางการเมืองหลังจากวันที่ 29 ส.ค. จะยกระดับไปอยู่ในรูปแบบการชุมนุมใหญ่ โดยจะเชื่อมต่อกับกิจกรรมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาวันที่ 31 ส.ค. -2 ก.ย.

หากจำกันได้เมื่อวันที่ 15 ส.ค. “ณัฐวุฒิ” จัดคาร์ม็อบแยกราชประสงค์ “สมบัติ” นำคาร์ม็อบจากจ.อยุธยาเข้าสู่กทม. โดยหยุดอยู่ที่ห้า แยกลาดพร้าว ต้องยอมรับว่าคาร์ม็อบตอบโจทย์การลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 และอาจจะตอบโจทย์ภาพเชิงปริมาณ เนื่องจากผู้ร่วมชุมนุม+รถ ภาพสวยดูมีพลัง แต่ไม่ตอบโจทย์ประเด็นการชุมนุม

ที่สำคัญการบริหารจัดการคาร์ม็อบยังยากมากด้วย เพราะผู้เข้าร่วมการชุมนุมสามารถมูฟออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรวมตัวกันท้าทาย “ตำรวจ” อย่างม็อบ 15 สิงหา แม้ “ณัฐวุฒิ” จะปรามไม่ให้มวลชนไปปะทะกับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่แยกดินแดง แต่มวลชนที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มทะลุแก๊ส” ไม่ได้ฟังคำห้ามปรามของ “ณัฐวุฒิ” รวมตัวกันแยกดินแดงก่อหวอดปะทะ คฝ. โดยไม่ได้สนใจเนื้อหาของการชุมนุม ซึ่งหาก “ณัฐวุฒิ-สมบัติ” รังจะนัดชุมนุม เพื่อเปิดช่องให้ “กลุ่มทะลุแก๊ส” ออกมาปั่นป่วนจนเสียขบวน

การชุมนุมคาร์ม็อบ วันที่ 29 ส.ค.นี้ “ณัฐวุฒิ-สมบัติ” จึงเลี่ยงจัดในพื้นที่กทม. เลือกมุ่งเคลื่อนขบวนปักหมุดไปที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นถิ่นฐานของมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อขบวนคาร์ม็อบเดินทางถึงจุดหมาย มวลชนคนเสื้อแดงเตรียมให้การต้อนรับหนาแน่นแน่นอน

ทว่าเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจม็อบ 29 ส.ค. “ณัฐวุฒิ-สมบัติ” เคลื่อนมวลชนทำม็อบต่อ แต่รูปแบบจะไม่ใช่ “คาร์ม็อบ” อีกต่อไป โดยจะเน้นการจัดเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ตามแนวทางขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นเก้าอี้นายกฯ

โดยประเด็นการปราศรัยของ “ณัฐวุฒิ” จะมุ่งเน้นไปที่การบริหารงานที่ผิดพลาด การสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เกิดความแตกแยกฝังลึกในสังคมไทย ซึ่งต้องจับตาว่าฝีปากของณัฐวุฒิ ข้อมูลที่มีอยู่ในมือจะสามารถทำให้มวลชนทั้งหน้าเวทีปราศรัย-โลกออนไลน์ เชื่อถือในข้อมูลได้มากน้อยเพียงใด

เพราะณัฐวุฒิรู้ดีว่าการจัดม็อบ 2-3 เวทีไม่สามารถล้ม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ แถมจะขับไล่อย่างไรก็ยากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกจากตำแหน่ง ขนาด “ม็อบราษฎร” ที่ว่าพีคสุดทำได้แค่เขย่าเก้าอี้ พล.อ.ประยุทธ์” ให้สะเทือนได้บ้าง แต่เมื่อตั้งหลักได้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินเกมรุกจน “ม็อบราษฎร” อ่อนแรงไปเอง

ดังนั้นการเคลื่อนของ “ณัฐวุฒิ” คือเกมยาวที่ต้องเก็บแต้ม-เล่นกระแสไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

ว่ากันว่าเป้าหมายของณัฐวุฒิมองไปไกลกว่าการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะรู้ว่าเก้าอี้เสริมใยเหล็กของ พล.อ.ประยุทธ์ ยากที่จะเลื่อยลงได้ง่ายๆ เกมการเคลื่อนของณัฐวุฒิจึงถูกมองว่าเป็นการเดินเกมคู่ขนาดกับการตั้งพรรคการเมืองแตกแบงค์พันของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โฟกัสไปที่ “พรรคเส้นทางใหม่” ของ “เสี่ยอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง ที่ก่อร่างสร้างตัวมาพักใหญ่ โดย “จาตุรนต์” ได้ออกมาประกาศจะเปิดตัวกับพรรคเส้นทางใหม่ในเร็วๆนี้

โดย “พรรคเส้นทางใหม่” มีจุดขายอยู่ที่ตัวของ “จาตุรนต์” แต่ตัวของ “จาตุรนต์” เองก็เป็นจุดอ่อนของพรรคเช่นกัน เนื่องจากฐานมวลชน-ฐานเสียงของ “จาตุรนต์” เองแทบไม่มีอยู่ในมือ หากจะเดินหน้าทำพรรคการเมือง อาจจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เสียด้วยซ้ำ

ขนาดจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยเป็นถิ่นฐานทางการเมืองของ “ตระกูลฉายแสง” ก็แทบจะไม่เหลือฐานเสียงเดิมอยู่อีก เพราะตระกูลฉายแสงห่างหายจากหน้ากระดาน-หน้าสื่อทางการเมืองไปนมนาน

ดังนั้นภารกิจของ “ณัฐวุฒิ-จาตุรนต์” จึงเหมือนแยกกันเดิน แต่จุดหมายเดียวกัน จุดหมายที่ปักหมุดเอาไว้ที่การสร้างพรรคการเมือง ที่มีชื่อว่า “พรรคเส้นทางใหม่” ลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อโค่นล้ม “ระบอบประยุทธ์” ของจริง

ขุนพลของ “จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ” โฟกัสไปที่อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่ไม่ได้ลงสนามเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 เนื่องจากโดนยุบพรรคไปเสียก่อน โดยมีอดีตทษช.จำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถกลับหันหลังไปร่วมหัวจมท้ายกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้

ฉะนั้นอดีต ทษช.ที่ยังอยากเดินบนถนนการเมือง จะมารวมตัวกันที่พรรคเส้นทางใหม่ โดยมี “จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ” เป็นผู้นำ โดยต้องร่วมด้วยช่วยกันเก็บแต้มทางการเมืองนับตั้งแต่ตอนนี้ โดยมี “ณัฐวุฒิ” ที่คอยเดินเกมชิงฐานเสียง “คนรุ่นใหม่” มาจากพรรคก้าวไกล

หลังจากนี้จับตาทุกย่างก้าวของ “จาตุรนต์” ที่จะรีแบรนด์ตัวเอง เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางความคิดของคนรุ่นใหม่ ผสานแนวคิดกับคนรุ่นเก่า จับตาทุกย่างก้าวของ “ณัฐวุฒิ” ที่จะตั้งเวทีปราศรัยดึงฐานเสียงคนรุ่นใหม่ คนเสื้อแดง ให้กลับมาศรัทธาในตัวของณัฐวุฒิอีกครั้ง

เกมแตกแบงค์พัน-พรรคสำรองของ “ทักษิณ” ต้องรีบขับเคลื่อน แม้เวลาของ “พล.อ.ประยุทธ์” ยังเหลืออีก 1 ปีครึ่ง แต่การแย่งฐานเสียงทางการเมือง โดน “พรรคก้าวไกล” โกยแต้มหนีไปไกล จำเป็นต้องเร่งเกมยึดแต้มคืน