WICE จ่อปิดดีล M&A ครึ่งหลัง เพิ่มเป้ารายได้ปี 64 โต 45%

WICE จ่อปิดดีล M&A ครึ่งหลัง เพิ่มเป้ารายได้ปี 64 โต 45%

WICE เผยครึ่งหลังปี 64 เล็งปิดดีลซื้อกิจการ “ธุรกิจโลจิสติกส์” ในประเทศ ต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัท พร้อมเจรจาซื้อกิจการใน-ต่างประเทศเพิ่ม ปั้นธุรกิจซัพพลายเชนเติบโตเท่าตัวที่ 15% ของพอร์ตรายได้รวม พร้อมเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 45% แตะ 5.8 พันล้าน

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาดีลการควบรวมกิจการ (M&A) ในธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่าภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จะเห็นความชัดเจนของดีล M&A ในประเทศ 1 ดีล ส่วนดีล M&A ในต่างประเทศคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ การขยายธุรกิจโลจิสติกส์ผ่านการทำ M&A เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาวของบริษัทที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ให้เพิ่มขึ้นเท่าตัวมาอยู่ที่ 15% โดยเฉพาะตลาดโลจิสติกส์ในจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังเติบโตได้ดี อีกทั้งสามารถต่อยอดจากเครือข่ายของบริษัทที่อยู่ในภูมิภาคดังกล่าวได้อีกด้วย

ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 37% ธุรกิจขนส่งทางอากาศ (Air Freight) 29% ธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) 28% และธุรกิจห่วงโซ่อุปทาน 6% โดยรายได้ขนส่งทางทะเลที่เติบโตมาจากปริมาณการขนส่งผ่านช่องทางดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น ค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้น และการขาดแคลนของตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในช่วงครึ่งแรกเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้อยู่ที่ 2,993.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 193.01 ล้านบาท

ดังนั้นบริษัทจึงปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปี 2564 ให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 45% มาอยู่ที่ 5,800 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 20% และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 7% จากเดิมที่ 6% โดยได้ปัจจัยหนุนจากปริมาณการขนส่งสินค้าที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก การลงทุนซื้อตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มอีก 200 ใบ ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถขนส่งสินค้าได้เพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจคลังสินค้าซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ 1 หมื่นตารางเมตร คาดว่าอัตราการใช้พื้นที่ (Utilization Rate) จะแตะ 100% ภายในสิ้นปีนี้