‘บลจ.กรุงศรี’ชูธีมยั่งยืน ผลตอบแทนเด่นสู้โควิด

‘บลจ.กรุงศรี’ชูธีมยั่งยืน  ผลตอบแทนเด่นสู้โควิด

บลจ.กรุงศรีชี้โควิดจุดกระแสเทรนด์ลงทุนหุ้นยั่งยืนระดับโลกแกร่ง มีโมเมนตัมดีหลังพักฐาน 5 เดือนก่อนหน้า และราคาหุ้นยังไม่แพงเป็นโอกาสเข้าลงทุนจังหวะนี้ได้ ล่าสุดเข็นกองทุนใหม่ “KFESG”มูลค่าหมื่นล้าน ชู3ธีมเด่นตามเป้าสหประชาชาติ รับผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)กรุงศรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสการลงทุน ESG ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance)กำลังเป็นที่นิยมของนักลงทุนทั่วโลกอย่างมาก โดยกระแสดังกล่าวจุดติดหลังเกิดกการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อปีก่อนนักลงทุนพยายามกระจายการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและลดความผันผวนของตลาด

ขณะเดียวกันธีมลงทุน ESG ยังมีโมเมนตัมที่ดี สำหรับการลงทุน เพื่อหวังผลตอบแทนในระยะกลางถึงยาว แต่ในระยะสั้นก็สามารถสร้างความโดดเด่นได้ โดยในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้หุ้นกลุ่มESGได้พักฐานไปแล้วจากการสลับเปลี่ยนกลุ่มลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีและในช่วง 2 เดือนมานี้นักลงทุนเริ่มกลับมาลงทุนในธีม ESG อีกครั้ง ซึ่งราคาหุ้นยังไม่ปรับตัวสูงจนแพงเกินไปจึงเป็นโอกาสที่เข้ามาลงทุนได้

ล่าสุด บลจ.กรุงศริ เปิดตัวกองทุน ESG ใหม่ “กองทุนเปิดกรุงศรี Equity Sustainable Global Growth” ( KFESG) มูลค่ากองทุน 10,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาทเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO)ระหว่างวันที่ 16-24 ส.ค.นี้ และสำหรับนักลงทุนรายย่อย เมื่อลงทุนทุกๆ 100,000 บาทในช่วงเสนอขาย IPO รับเพิ่มหน่วยลงทุนKFESG-A มูลค่า 100บาท

นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า สำหรับกองทุน KFESG เน้น 3 ธีมการลงทุนหลักที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)ได้แก่ สภาวะอากาศ (Climate) สุขภาพ (Health) และการเสริมสร้างบทบาทและความเท่าเทียมในสังคม (Empowerment)ที่จะสร้างโอกาสเติบโตอย่างแตกต่างในระยะยาวผ่านกองทุนหลัก AB Sustainable Global Thematic Portfolio

 โดยกองทุนหลัก ABSustainable Global Thematic Portfolio สร้างธีมการลงทุนดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับ 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ ทำให้มีโอกาสเติบโตที่ยั่งยืนได้ในระยะยาว ด้วยการสนับสนุนจากนานาประเทศทั่วโลก พร้อมเม็ดเงินลงทุนมหาศาล โดยตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่90ล้านล้านดอลลาร์

อีกทั้งพอร์ตการลงทุนที่ผู้จัดการกองทุนเชื่อมั่น สร้างขึ้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก บนมุมมองการเติบโตในระยะยาวและสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัดณ 30 มิ.ย. 2564ผลการดำเนินงานกองทุนหลัก AB ย้อนหลังเฉลี่ย1ปีอยู่ที่42.11% ขณะที่ดัชนีชี้วัดMSCIอยู่ที่39.26% ผลการดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ย3ปีอยู่ที่20.26%ดัชนีชี้วัดอยู่ที่14.57% ผลการดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ย5ปีอยู่ที่18.97%ดัชนีชี้วัดอยู่ที่14.61%

“ภาวะการลงทุนหุ้นในปีนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกและไทยยังมีความผันผวนสูง อีกทั้งมีการสลับสับเปลี่ยนกลุ่มหุ้นและภูมิภาคอยู่บ่อยครั้งแนะนำว่า การลงทุนธีมหุ้นที่ชัดเจน โดยเฉพาะธีมหุ้นยัั่งยืนทั่วโลก ในธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งเติบโตสูง พอร์ตลงทุนมีการกระจายตัวสูง โดยสามารถแบ่งเงินที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ มาลงทุนในกองทุนKFESG ระยะ 3ปีขึ้นไป ช่วยให้การลงทุนประสบความสำเร็จในภาวะเช่นนี้ได้สูง”