'หมอหญิง' หลั่งน้ำตา ขอโทษปมฉีดไฟเซอร์พี่สาว

'หมอหญิง' หลั่งน้ำตา ขอโทษปมฉีดไฟเซอร์พี่สาว

"หมอหญิง" เมืองคอนหลั่งน้ำตา แจงปมฉีดไฟเซอร์พี่สาว ยันเป็นวัคซีนที่เหลือทิ้ง ไม่ได้แย่งขอใคร ขอโทษที่เห็นแก่ตัวและคิดน้อยไป

กรณีที่วัคซีนไฟเซอร์นำไปฉีดให้กับบุคคลภายนอกโดยบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จนแพทย์หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางมานายแพทย์จรัสพงษ์สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยอมรับว่าได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์โด๊สดังกล่าวให้กับพี่สาวและแม่จริง  แต่ได้ฉีดให้พี่สาวส่วนแม่ยังไม่ได้ฉีด เนื่องจาก ผอ.รพ.นบพิตำ สั่งห้ามฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคคลภายนอกเด็ดขาด  และทราบว่าแพทย์หญิงที่ตกเป็นข่าวได้ยื่นใบลาออกต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว

17 สิงหาคม 2564 ที่ รพ.นบพิตำแพทย์หญิงที่ตกเป็นข่าว เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมา ว่าเมื่อวันที่ 12 ส.ค.64 ทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด่านหน้าต้องเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคัม จ.นนทบุรี ทาง รพ.จึงได้เบิกวัคซีนไฟเซอร์มา 1 ขวด ทำการฉีดให้กับบุคลากรเป็นโด๊สที่ 3 จำนวน 6 คน ที่จะเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคุม  และพบว่าเมื่อฉีดครบแล้วมีวัคซีนเหลือก้นขวดก็ต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ในความคิดของตนมองว่าน่าสจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แต่กว่าทิ้งถังขยะไปเฉย 

จนกระทั่งวันที่ 13 ส.ค. 2564 ทาง รพ.นบพิตำ จะทำการฉีดวัคซีนให้บุคลากรด้านหน้าจำนวน 66 คน โดยเบิกวัคซีนไฟเซอร์มาจำนวน 11 ขวด จนกระทั้งเวลาประมาณบ่ายโมทงเศษตนได้เดินมาที่จุดฉีดวัคซันถามทีมฉีดวัคซีนว่ามีวัคซีนเหลือก้นขวดบ้างไหม ทีมฉีดวัคซีนก็ตอบว่าบางขวดก็เหลือบางขวดไม่เหลือ โดยวัคซีนที่เหลือโด๊สที่ 7 ก่อนขวดนั้นไม่มีใครรับรองว่ามีคุณภาพหรือไม่ เขาจะไม่ให้ฉีดให้ใครเพราะอาจจะไม่ได้คุณภาพ
                
 "โดยหมอบอกว่าขวดที่เหลือหมอขอได้ไหมเพื่อจะฉีดให้แม่กับสาว จึงโทรไปให้พี่สาวที่ช่วยงานในคลินิกหน้า ม.วลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา ให้ขับรถพาแม่มาด้วย โดยบอกกับพี่สาวและแม่ว่ามีวัคซีนเกินขวดที่เขามีทิ้งแล้วจะเอาไหม ฉีดไหม พี่สาวบอกว่าเอา วัคซีนอะไรก็ได้ขอให้ได้ฉีด”

และด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ให้มีฉีดเอาวัคซีนก้นขวดที่เหลือทิ้งถังขยะมาฉีดให้พี่สาว จนกระทั้งมีเจ้าหน้าที่แจ้งเรื่องให้ ผอ.รพ.ทราบ ท่าน ผอ.จึงสั่งระงับการฉีดวัคซนให้บุคคลภายนอก ดังนั้นแม่จึงยังไม่ได้ฉีด ตามที่เป็นข่าวทางสทื่อบางสังกัดว่าหมอเบียดบังเอาวัคซีนโด๊สที่ 6 ฉีดให้แม่นั้นไม่เป็นความจริง "

แพทย์หญิง กล่าวอีกว่า เมื่อพี่สาวมาถึงหมอจึงให้เข้าไปนั่งในจุดที่ฉีดวัคซีน เพราะหมอมีความบริสุทธิ์ใจในการฉีดวัคซีนก้นขวดให้พี่สาว บุคลากรด่านหน้าที่ต้องรับวัคซีนทุกคนก็นั่งอยู่ ซึ่งหมอไม่มีทางที่จะเบียดบังไปแย่งวัคซีนเอาของเขามาฉีดให้พี่สาวและแม่  ยืนยันว่าววัคซีนที่ฉีดให้พี่สาวเป็นวัคซันที่ทิ้งแล้ว 
                    
 และเขาจะไม่แนะนำให้เอามาฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้า หากมีเหลือก็ทิ้ง หมอคิดว่าอย่าทิ้งเถอะมันเสียดาย หากหมอไม่บริสุทธิ์ใจจริง ๆ หมอก็บอกพยาบาลว่าหมอเอาไปฉีดให้พี่สาวเอง ฉีดในห้องหมอ ในรถก็ได้ หรือจุดไหนก็ได้ไม่ให้ใครเห็น ไม่มีใครรู้ แต่ด้วยความที่หมอบริสุทธ์ใจ และคิดน้อยไปจึงให้พยาบาลฉีดให้พี่สาวนะจุด ๆ นั้น จนเป็นเหตุให้คนบางคนที่เห็นเหตุการณ์อาจจะไม่เข้าใจ และวิตกกังวลว่าหมอไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้ามาหรือเปล่า

"มันเป็นวัคซีนที่เหลือก้นขวดทิ้งถังขยะจริง ๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ก็เห็น บุคลากรด่านหน้าที่ 66 คนทุกคนได้รับวัคซีน ยอมรับว่าหมอให้พี่สาวพาคุณแม่มาด้วย แต่แม่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่อย่างใด เพราะหลังฉีดให้พี่สาวก็มีบุคลากรบางท่านรายงานให้ ผอ.รพ.นบพิตำ ว่ามีการฉีดวัคซันไฟเซอร์ของบุคลากรด่านหน้าให้กับบุคคลภายนอก”
                
ซึ่งเขาก็ทำถูกต้องแล้ว จนทาง ผอ.รพ.กำชับไม่ให้ฉีดให้บุคคลภายนอก แต่หมอเองก็น้อยใจว่า เราทำงานสุ่มเสี่ยงตรงนี้มาต่อเนื่อง แต่เราไม่สามารถที่จะเอาวัคซีนก้อนขวดทิ้งไปแล้วกลับมาฉีดให้กับแม่และพี่สาวของเราไม่ได้  เพื่อให้เขาปลอดภัย เพราะทุกวันที่หมอมาทำงานที่ รพ.นบพิตำ คลุกคลีกับผู้ป่วยรวมทั้งบุคลากรที่ติดเชื้อก็มี

และหมอต้องกลับไปนอนกับแม่ กับพี่สาว ที่ผ่านมาหมอเองเป็นคนเสี่ยงและเสียสละอยู่ด่านหน้าแต่หมอไม่สามารถที่จะดูแลปกป้องคนในครอบครัวของตัวเองได้เลย นี่คือความเห็นแก่ตัวของหมอเอง หมอก็โทษประชาชนทุกคนจริง ๆ ที่หมอเห็นแก่ตัว มันเป็นประเด็นที่อ่อนไหวจริง ๆ"

หมอสาวกล่าวทั้งน้ำตา อีกว่า หมอน้อยใจ เสียใจมาก ที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นจึงได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกและกลับไปบ้าน คิดทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่หมอทำมันถูกไหม เราชิงลาออกแบบนี้เราได้อะไรกับการลาออก ประกอบกับหมอที่ รพ.นบพิตำ มีน้อยมาก ส่วนหนึ่งต้องไปช่วย รพ.บุษราคัม และยังจะต้องเปิด รพ.สนามนบพิตำ  ถ้าหมอออกจะมีหมอไม่เพียงพอ เพราะเป็น รพ.ขนาดเล็ก มีหมอไม่กี่คน หากหมอออกไปอีกคนก็จะไม่มีคนที่จะช่วยงานในส่วนเหล่านี้ ล่าสุดตัดสินใจกลับมาโรงพยาบาลและไปเอาใบลาออกกลับคืนมา
                  
 "ฉันจะสู้ ฉันจะสู้ก่อนเพื่อคนนบพิตำ สู่เพื่อคนไข้และจรรยาบรรณ แม้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นและถูกโจมตีอย่างหนักมันบั่นทอนความรู้สึก บั่นทอนจิตใจตัวหมอเอง จากความเห็นแก่ตัวของหมอที่อยากให้คนที่เรารักคือแม่และพี่สาวได้ปลอดภัย มีชีวิตอยู่กับเราไปนานๆ  หมอกราบขออภัยด้วย”