'เบนซ์ไพรม์มัส' ฝ่าโควิด  ยอดขายพุ่ง26%

'เบนซ์ไพรม์มัส' ฝ่าโควิด  ยอดขายพุ่ง26%

เป็นน้องใหม่ในกลุ่มตัวแทนจำหน่าย รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ที่มีผลงานเข้าตาบริษัทแม่ทีเดียว สำหรับ  “เบนซ์ไพรม์มัส” ที่ช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด

สถานการณ์โดยรวมในช่วงครึ่งปีแรก 2564 แน่นอน ทุกกลุ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ เบนซ์ไพรม์มัส ก็ยังทำผลงานได้ค่อนข้างดี ด้วยยอดขายที่ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้  

ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด ระบุว่าช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างรุนแรง รวมถึงเศรษฐกิจในภาพรวม 

อย่างไรก็ตามนโยบายของภาครัฐที่ควบคุมการแพร่ระบาด การกระจายการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในวงกว้าง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ ทำให้ยอดขายรวมครึ่งปีที่ทำได้ 3.73 แสนคัน เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ในส่วน “เบนซ์ไพรม์มัส”  มีอัตราส่วนการเติบโตของยอดขายสูงกว่าตลาดรวม โดยเพิ่มขึ้น 26.2 % ที่สำคัญคือ เติบโตกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 28.5% แบ่งเป็นกลุ่มเมอร์เซเดส-เบนซ์ เติบโต 31.5% กลุ่มเอเอ็มจี เติบโต 9.6%

รุ่นหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ อี-คลาส, ตามมาด้วย คอมแพคท์ คาร์ (เอ-คลาส, ซี-คลาส) และ เอสยูวี 

"เป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทใช้นโยบายเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ปรับแผนธุรกิจที่สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ด้วยการสร้างประสบการณ์และความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าที่เข้ารับบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย"

162814931916

ณัฏฐวุฒิ กล่าวว่า อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตลาดไพรม์มัส ขยายตัวได้อย่างน่าพอใจ คือ นโยบายของบริษ้ทแม่ที่นำเสนอรถใหม่อย่างต่อเนื่อง และตรงกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการสนับสนุนกลยุทธ์การจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น 

ตลาดครึ่งปีแรก ทำได้ดีเกินคาดดังนั้นช่วงครึ่งปีหลัง สิ่งที่บริษ้ทจะทำก็คือ การเดินหน้าแผนธุรกิจที่กำหนดไว้ต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ก็จะเน้นด้านการบริการ โดยจะปรับปรุงรูปแบบการบริการใหม่ๆ ให้มีประสิทธิภาพและครบวงจรมากขึ้น เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ “Top of Mind”

จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า แม้ไทยจะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อจำนวนลูกค้าที่เข้ามายังโชว์รูมและศูนย์บริการ ซศึ่งพบว่าลดลงมากกว่า 20%

อย่างไรก็ตาม การที่ลูกค้าที่ยังคงเข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง จึงส่งผลให้ยอดขายยังคงเติบโตได้อย่างน่าพอใจ

อีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับตัวของบริษัทที่หันมาเน้นช่องทางการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี เพราะสะดวกรวดเร็ว และครอบคลุมทุกการบริการ 

ส่วนครึ่งปีหลังนอกจากเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ก็ยังจะเสริมด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายหลายรูปแบบ รวมถึงกิจกรรม สตาร์เฟสต์ 2021 ที่จะจัดถึงวันที่ 30 ก.ย. โดยมีข้อเสนพิเศษ เช่น  โปรแกรมบำรุงรักษา MBSP 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง บัตรกำนัลส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง แถมประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี หรือ ผ่อน 0% นาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี หรือเลือก รับประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี และรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี และยังมีอีกหลายๆ แคมเปญ รวมถึงแคมเปญด้านการบริการ 

ซึ่งทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะทำให้บริษัทสามารถฝ่าวิกฤติโควิด-19 ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน