'Home isolation'ยาไปไม่ถึงคนไข้ แนะเปิด'ศูนย์รับยา'ทุกเขต ลดเสียชีวิตคาบ้าน

'Home isolation'ยาไปไม่ถึงคนไข้ แนะเปิด'ศูนย์รับยา'ทุกเขต ลดเสียชีวิตคาบ้าน

หมออาสา เผยรัฐใช้ 'Home isolation' แก้ระบบเตียงไม่พอ แต่ยังทำได้ไม่ดีพอ 'ผู้ป่วยโควิด 19' ไม่ได้รับยา แนะเปิด 'ศูนย์รับยา' ทุกเขต แก้ปัญหาผู้ป่วยเสียชีวิตคาบ้าน ลดผู้ป่วยกลุ่มสีแดงให้มากที่สุด ย้ำผู้ป่วยที่ใช่ต้องได้รับยาเร็วที่สุด

นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา (หมอแอร์)แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ได้โพสผ่านเฟสบุ๊ค ส่วนตัว Akanis Srisukwattana  ระบุว่า จากหมออาสาทำ Home isolation คนหนึ่ง ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ คือ คนไข้อีกจำนวนมาก ยังไม่ได้รับยา ซึ่งทำ Home isolation แต่ยาไปไม่ถึงทันคนไข้ 

  • 'Home isolation' แก้ปัญหาเตียง แต่ยาไปไม่ถึงคนไข้

รัฐใช้การ Home isolation เข้ามาแก้ไข ระบบเตียงที่ไม่พอ แต่ยังทำได้ไม่ดีพอ ที่จะให้คนไข้ได้รับยาได้ทัน. เราเฝ้าติดตามอาการคนไข้ หลายคนดีขึ้น หลายคนหาย แต่มีอีกหลายคนจากสีเขียว เป็นสีเหลือง และเป็นสีแดงและเสียชีวิต

นพ.อกนิษฐ์  กล่าวต่อว่า ทุกคนอยากได้ยาเร็ว หมอก็อยากให้ยาถึงเร็ว แต่มันไปไม่ถึง เพราะระบบ เพราะกำลังพล เพราะปริมาณคนไข้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เราส่งยาให้ถึงได้ไม่ทัน เฉพาะคลินิกที่ผมอาสา คนไข้เข้าระบบ 2 หมื่นคน หมอประมาณ 1 พันคน ช่วยกัน call แต่ด้วยประมาณคนไข้กับระบบที่ใหม่ ทำให้ปริมาณยาค้างที่ต้องส่งเยอะ  จนทำให้ พริบตาคลินิก ต้องลดปริมาณคนไข้เข้าระบบ ลงแต่เคสผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน  แล้ว เคสใหม่เหล่านั้น จะไปลงที่ไหน ?

ทุกอย่างกลายเป็นระบบจิตอาสา แม้แต่ Rider ยังต้องใช้เงินออกค่าน้ำมันเอง  ไม่มีเงินใดๆมาสนับสนุนผมบอกได้เลยว่า ถ้าปริมาณคนไข้ติดเชื้อใหม่ ยังสูงขนาดนี้ เราไม่มีทางใช้ ระบบ Home isolation กระจายให้ยาได้ทันท่วงทีแน่ คนไข้จะเสียชีวิตอีกเยอะมาก เพราะยาไปช้า ยาเรามีเยอะมาก แต่ไม่ได้เอาออกมาใช้ เพราะให้ไม่ทัน ระบบการกระจายยาของรัฐทำช้าไป เข้าถึงยาก และมีช่องทางน้อย” นพ.อกนิษฐ์ กล่าว

  • แนะเปิดศูนย์รับยา แก้ปัญหา'ผู้ป่วยโควิด 19'เสียชีวิตคาบ้าน

ทั้งนี้  ทำงานแล้วมันอึดอัด ที่ยังไปได้ไม่สุด ช่วยคนไข้ได้ไม่มากพอ ที่ต้องการ ทางที่จะทำให้ ลดการตายได้มากที่สุด ต้องเปิดศูนย์รับยา หลายๆเขต ให้ ญาติคนไข้ สามารถรับยาแทนได้  ให้ผู้ป่วยได้รับยาและกินที่บ้าน และจัดระบบคิวการรับดีๆ ไม่ให้โกลาหล และประชาสัมพันธ์ให้ทราบ

ส่วนเคสที่ ไม่มีญาติ ต้องกักตัว ใช้การโทร  call แบบที่พริบตาคลินิคทำ แล้วจัดระบบ ระดมกำลัง ให้ส่งยาได้ เกินวันละ 1000 เคสให้ได้ทุกนาที ทุก ชม ที่คนไข้ไม่ได้ยาเราจะมีคนเสียชีวิตมากขึ้น

นพ.อกนิษฐ์ กล่าวต่อไปว่าอยากให้คิดว่า ทุกนาทีที่เสียไป ที่คนไข้สีเหลืองไม่ได้ยาถึงจุดนึง จะย้อนกลับไม่ได้ เป็นจุดที่น่าเข้าไปสะกัดไม่ให้เคสแดง ล้น รพ มากที่สุด ถ้าขยับช้า แบบนี้ เราจะมีคนเสียชีวิตสูงขึ้นทุกวัน  มีคนเสียชีวิตคาบ้านอีกมากมาย

ต่อมา นพ.อกนิษฐ์ ได้โพสอีกว่าจากการเขียนเรื่อง  Home Isolation จนไปถึงผู้ใหญ่หลายภาคส่วน ตนเชื่อเสมอ ว่าเสียงทุกคน มีพลัง ถ้าชี้ให้เห็นปัญหา ข้อเท็จจริง เหตุผล ความเร่งด่วน จะมีคนฟัง เห็นปัญหาเหมือนกัน และอยากแก้ปัญหาเหมือนกัน โดยไม่ได้เลือกฝ่าย เลือกข้าง

เมื่อวานได้รับการติดต่อมากมาย และได้รับการติดต่อกับผู้ใหญ่หลายท่าน ทราบว่า ทุกท่านไม่ได้นิ่งนอนใจ และเห็นปัญหาตรงกัน. เรากำลังจะมีศูนย์ ตรวจ โควิด พร้อม รับยากลับบ้าน เราจะมีการรักษาเชิงรุกมากขึ้น มากกว่า การทำ Home isolation อย่างเดียว ตอนนี้ บางที่ มีการเริ่มทำไปแล้ว และกำลังเร่งให้เปิดรับได้เร็วที่สุด  และ บางที่กำลังเดินหน้าเช่นกัน เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่พลังสังคม ทำให้เกิดการเดินหน้า ขอบคุณพลังขับเคลื่อนของทุกคน

สิ่งที่สำคัญที่สุด ในภาพรวมตอนนี้คือ ทำให้มีคนไข้สีแดงเกิดขึ้นน้อยที่สุด คนไข้สีแดง มีโอกาสเสียชีวิต ถ้าไม่เสียชีวิต ต้องอยู่ รพ.นานเป็นเดือน คนไข้จะล้นรพ ไปเรื่อยๆ ผู้ป่วยที่ใช่ ต้องได้รับยาเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เหลืองเป็นแดง ถ้าเป็นแดง ก็ให้เป็นแดงอ่อนๆ รักษาได้ ในขณะที่ไม่มีเตียง"นพ.อกนิษฐ์ กล่าว 

คำว่าใช่หมายถึง เป็นกลุ่มเสี่ยง  เป็น กลุ่มสูงอายุ เริ่มมีอาการทางปอด กลุ่มนี้เป็นแล้วโรครุนแรง เสียชีวิตได้

เร็วที่สุด เพราะ เมื่อมีอาการทางปอด ยิ่งให้ยาเร็วยิ่งดี ถ้าโรคดำเนินไปมาก ทิ้งระยะไปนาน การให้ยาประสิทธิภาพการรักษาจะลดลงกว่าเดิม แม้รักษาเต็มที่ ที่รพก็อาจเสียชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ถึงไทยแล้ว!'แอนติบอดี ค็อกเทล'ยาต้านไวรัสโควิดตัวแรก ลดนอนรพ.ได้ถึง 70%

                  เปิดแนวทางรักษา 'ผู้ป่วยโควิด 19' ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงสูงอายุ

                  'Home isolation' มาตรการเสริม รับวิกฤติเตียง 'โควิด-19' เต็ม

  • ยากลุ่ม 'steroid' ลดอาการอักเสบของปอด แต่ไม่ต้องกินทุกคน

นพ.อกนิษฐ์ กล่าวอีกด้วยว่า ยาที่ใช้รักษาโควิด 19 ไม่ใช่ ยาฟาวิพิราเวียร์ อย่างเดียว เอาจริงๆ ยาตัวนี้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ว่าลดการเสียชีวิตได้ แต่รู้ว่า ความรุนแรงของโรค เกิดจากการอักเสบ ของร่างกาย ของปอดที่มีต่อเชื้อไวรัส การให้ยาลดการอักเสบ กลุ่ม streroid จะช่วยลดอาการอักเสบ ของร่างกาย และของปอดได้ ลดอัตราการเสียชีวิต ลดความรุนแรงโรคได้ชัดเจนมากกว่า แต่ แพทย์คงลำบาก ที่จะให้ steroid อย่างเดียว โดยไม่ให้ยาต้านไวรัส ต้องให้คู่กันไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโควิด จะกินยากลุ่ม steroid ทุกคนไม่ได้ เพราะยามีผลข้างเคียง และผลเสียเยอะมากด้วย เช่น

-ทำให้น้ำตาลสูง โดยเฉพาะ ผู้ป่วยเบาหวาน น้ำตาลจะสูงขึ้นมาก จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

-steroid กดภูมิต้านทาน ทำให้ เกิดการติดเชื้อ แบคทีเรียขึ้นมาแทน

-ถ้าไม่ได้เป็นโควิดแล้วกิน หรือ ไม่เป็นโควิดแบบรุนแรงแล้วกิน จะเกิดผลเสียแทน

ประชาชนควรรู้ว่า steroid มีความจำเป็น และต้องใช้ในการรักษาในรายที่มีอาการทางปอด และไม่ต้องกินทุกคน

ถ้าเราระดมพลัง สร้าง จุดรับยาเพิ่ม มีระบบ Home isolation  ที่รวดเร็ว ช่วยกันทำ อย่าต่างคนต่างทำ เดี๋ยวมันชนกัน มีคนมองภาพรวม เพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ทันเวลา ทำให้ผู้ป่วยที่รู้ว่าติดเชื้อตั้งแต่วันแรก มีแพลนในชีวิต ว่าต้องกินยาไหม กินยาอะไร ถ้าต้องกิน จะได้รับยาเมื่อไหร่  ทำให้ ผู้ป่วยที่ใช่ ได้รับยาที่เร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลง  เราจะลดคนไข้สีแดงลงได้อีกมาก และสุดท้ายจะเริ่มเห็นผู้ป่วยเสียชีวิตลดลง ระยะยาว รพ.หน้าด่าน จะมีที่พอสำหรับผู้ป่วยหนัก