ส่องเส้นทาง 'สนธิญา สวัสดี' การเมืองไม่รุ่ง มุ่งนักร้อง(เรียน)

กระแส Call out ดารา นักร้อง และเซเลบในสังคม ที่แสดงความคิดเห็นต่อบริหารงานของรัฐบาลต่อสถานการณ์โควิด ยังลามไม่หยุด แต่ต้องมาสะดุดเมื่อถูกนักร้องเรียน ที่ชื่อ “สนธิญาสวัสดี” โหนกระแส หอบหลักฐานพร้อมรายชื่อคนดังในสังคมเหล่านี้กว่า 20 คน ไปยื่นให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบ ตักเตือน และพิจารณาความผิด โดยอ้างว่าเพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงในสังคม หลังกลุ่มคนดังกล่าวใช้โซเชียลมีเดียแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และพาดพิงการบริหารงานของรัฐบาล

ปฏิบัติการปกป้องนายกฯ และรัฐบาลเที่ยวนี้ ทำให้ “สนธิญา สวัสดี” ถูกโยงเข้ากับพรรคพลังประชารัฐ ที่เขาเคยเป็นสมาชิก แต่ข้อเท็จจริงคือ เป็นสมาชิกได้เพียงแค่ 4 วันก็ต้องลาออกเนื่องจากตรวจสอบพบว่าเป็นสมาชิกซ้อนกับพรรคอื่น

ตามหน้าสื่อที่พาดหัว “สนธิญา เด็กพลังประชารัฐ” ทำให้ ผู้กองมนัส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าเลขาธิการพรรค ต้องออกมาเคลียร์ว่า บุคคลผู้นี้เคยเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจริง แต่ปัจุบันไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ

ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว 11 มี.ค.2563 สนธิญาเคยแจ้งความ ปอท.ให้ดำเนินคดีแอดมิน “เพจแหม่มโพธิ์ดำ” กรณีเสนอข้อมูลหน้ากากอนามัย ก็ถูกโยงว่าเป็นสมาชิกพลังประชารัฐ เพราะเจ้าตัวอ้างว่าดำเนินการส่วนตัวในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้เป็นตัวแทนของพรรค แต่“วิเชียร ชวลิต” ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคขณะนั้นก็ได้ออกมายืนยันว่าสนธิญาลาออกไปนานแล้ว

ปัจจุบัน “สนธิญา” เป็นที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกรรมาธิการฯ ซึ่ง “สิระ” ยอมรับว่ามีชื่อสนธิญาเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการจริง แต่ไม่รู้ว่าเป็น“โควตา” ของใคร เพราะไม่ใช่ของตน และพรรคพลังประชารัฐ และกำลังจะทบทวนการแต่งตั้งที่ปรึกษาใหม่ ไม่เฉพาะกรณีของสนธิญา แต่รวมถึงคนอื่นๆ อีกนับร้อยราย

ที่น่าสนใจ อีกงานของ “สนธิญา” คือเป็นมือทำงานด้านกฎหมายให้นักการเมือง สายองครักษ์พิทักษ์นายกฯ “แรมโบ้อีสาน” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม เป็น “เสกสกล อัตถาวงศ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

ว่ากันว่า ความสนิทสนมของทั้งคู่นั้น ทุกประเด็นที่ สนธิญาจะยื่นร้องเรียนใคร เรื่องใดก็ตาม จะต้องรายงานตรงต่อ “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล โดยตลอด

ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากสนธิญา จะไปโผล่โควตาที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการกฎหมายสภาฯ แบบเนียนๆ โดย “สิระ” ก็ปฏิเสธการรับรู้ถึงที่มา

เมื่อส่องประวัติ “สนธิญา” พบว่าจบปริญญาตรี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ปัจจุบันมีหลักแหล่งใน ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เคยเป็นทีมทำงานคหบดีชื่อดังแห่งท่าฉลอม สร้างสถานีตำรวจ สภ.ท่าฉลอม เป็นอนุสรณ์ครอบรอบ 101 ปี สุขาภิบาลท่าฉลอม และกิจกรรมอื่นๆ (แต่บางสื่อก็ระบุว่า เขาเป็นชาวนครศรีธรรมราช) เคยทำธุรกิจอยู่ในสมุทรสาครจึงได้เป็นคณะทำงานยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร และคณะทำงานยุทธศาสตร์พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ในช่วงปี 2545-2547

ความมุ่งมั่นในการเข้าสู่เส้นทางการเมือง พบว่าเขาลงเลือกตั้งมาแล้วหลายพรรค หลายสนามทั้งท้องถิ่น และระดับชาติ แต่ยังไปไม่ถึงความสำเร็จ

ในการเลือกตั้งปี 2554 มีชื่อ สนธิญา สวัสดี อยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ลำดับที่ 80 ขณะที่การเลือกตั้งปี 2562 สนธิญา ลงสมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เขต 1 (อ.เมือง) ในสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่ง อนุสรี ทับสุวรรณ ทายาทตระกูล “ทับสุวรรณ” เป็นผู้จัดทัพเลือกตั้งในสมุทรสาคร ทั้ง 3 เขต ผลปรากฏว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย พ่ายยับทุกเขต ทั้งที่ “อเนก ทับสุวรรณ” อดีต ส.ส.สมุทรสาคร ได้สร้างฐานการเมืองไว้ยาวนาน

ล่าสุด ปลายปีที่แล้ว 2563 สนธิญา ในนามกลุ่ม “ประชารัฐสมุทรสาคร” ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร แต่ก็สอบตก อกหักอีกครั้ง

บนเส้นทางการเมืองที่ "สนธิญา" ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เส้นทาง “นักร้องเรียน" ก็ทำให้มีคนรู้จักทั้งประเทศ และปฏิบัติการแจ้งความดารา Call out ก็ทำเขาต้องปิดเฟซบุ๊ค หนีกระแสทัวร์ลงไปได้อย่างหวุดหวิด