MENA เร่งขยายธุรกิจ ! เกาะโครงสร้างพื้นฐาน

MENA เร่งขยายธุรกิจ ! เกาะโครงสร้างพื้นฐาน

แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 'จุดขาย' หุ้นน้องใหม่ไอพีโอ 'มีนาทรานสปอร์ต' เข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 7 ก.ค. นี้ ราคาหุ้นละ 1.20 บาท 'สุวรรณา ขจรวุฒิเดช' โชว์พันธกิจใหม่ เร่งขยายฐานลูกค้า-เพิ่มกองรถ 'ปลดล็อก' การเติบโตระดับสูง

เมื่อธุรกิจให้บริการขนส่งมี 'อัตราการเติบโต' และ 'ความมั่นคง' ตามแผนพัฒนางานโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลให้ 'ความต้องการ' (ดีมานด์) การขนส่ง 'คอนกรีต' หรือ 'ขนส่งปูนผง' ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) จะมีผลเชิงลบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมก่อสร้างที่คาดว่าจะ 'สะดุด' ! แต่มองเป็นระยะสั้น 

หนึ่งในผู้นำธุรกิจรถขนส่งคอนกรีตและปูนผงรายใหญ่ บมจ. มีนาทรานสปอร์ต หรือ MENA ที่กำลังได้รับปัจจัยบวกการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ น้องใหม่เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 184 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว คิดเป็นระดับ P/E ที่ประมาณ 20.69 เท่า เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 7 ก.ค.นี้ 

ณ ปัจจุบัน 'มีนาทรานสปอร์ต' แบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ ประกอบด้วย 1.การให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบหัวลาก–หางพ่วง (Trailer) และการขนส่งด้วยรถขนส่งขนาดเล็ก 4-6 ล้อ คือรถบรรทุกที่สามารถเปลี่ยนหางหรือรถกึ่งพ่วงได้หลายประเภทเพื่อใช้ขนสินค้าหลากหลายชนิดตามความต้องการของลูกค้า เนื่องจากบริษัทมุ่งปฏิบัติงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการขนส่งสินค้าที่รวดเร็วตรงต่อเวลา ปลอดภัย และสินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ครบถ้วน ไม่ชำรุด

2.การให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) คือ การบริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-to-mix concrete) จะใช้รถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) 4–10 ล้อ ขึ้นอยู่กับปริมาณของสินค้า และพื้นที่หน้างาน ซึ่งบริษัทให้บริการทั้งรถมิกเซอร์ขนาดเล็กที่สามารถบรรทุกได้สูงสุด 2 ลูกบาศก์เมตร และรถมิกเซอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกได้สูงสุด 5 ลูกบาศก์เมตร

และ 3.การขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง คือ บริษัทขายสินค้าประเภท คอนกรีต ปูนซีเมนต์ถุง ปูนซีเมนต์ผง และขี้เถ้าลอย ให้แก่ลูกค้าซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งบริษัททำหน้าที่จัดหาสินค้า อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้เข้าทำสัญญาเป็นตัวแทนขายสินค้าให้บริษัทผู้ผลิตรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะเพื่อความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจด้วย 

โดย MENA ปัจจุบันมีกองยานรถมิกเซอร์จำนวน 466 คัน และมีรถเทรลเลอร์ (หัวลาก) 75 คัน และยังมีรถกึ่งพ่วง หรือหางลากประเภทต่างๆ 105 คัน รวมทั้ง มีพนักงานจัดส่งภายใต้การบริหารกว่า 500 คน ทำให้สามารถรองรับงานโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป็นบริษัทปูนซีเมนต์ชั้นนำของไทย และผู้ผลิตท้องถิ่นรายใหญ่ ที่มีแผนการขยายงานที่ค่อนข้างชัดเจน 

'สุวรรณา ขจรวุฒิเดช' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มีนาทรานสปอร์ต หรือ MENA ให้สัมภาษณ์พิเศษ 'หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ' ฟังว่า การนำบริษัทเข้าระดมทุนครั้งนี้...! มูลค่า 220.80 ล้านบาท เพื่อต้องการ 'ปลดล็อก' ขยายการเติบโตในอนาคต รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดอีกด้วย 

162521215927

สะท้อนผ่านเงินระดมทุนนำไปขยายโครงการในอนาคต มูลค่า 160.80 ล้านบาท ภายในปี 2565 โดยบริษัทมีแผนจะ 'ขยายกองยานรถมิกเซอร์' ให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า และโอกาสจากธุรกิจขนส่งซึ่งมีทิศทางการเติบโตรองรับงานโครงการขนาดใหญ่ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ , โครงการ EEC , โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งในปี 2564 บริษัทวางแผนขยายรถมิกเซอร์เพิ่มอีก 30 คัน โดยครึ่งปีแรกขยายไปแล้ว 10 คัน 

รวมทั้งกำลังเดินหน้าพูดคุยกับลูกค้ารายใหม่ๆ เพื่อขยายการให้บริการไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อต่อยอดธุรกิจขนส่งสินค้าประเภทอื่นๆ อาทิ บริการขนส่งสินค้าเฉพาะทาง และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะเป็นการสร้างความน่าสนใจการลงทุนในระยะยาว และด้วยกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคนั้นไม่ค่อยได้รับผลกระทบในเชิงลบมากนัก เนื่องจากเป็นสินค้าที่ประชาชนต้องใช้ โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าซึ่งจะสนับสนุนโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ 

นอกจากนี้ บริษัทจะนำไปใช้จ่ายคืนหนี้สิน 20 ล้านบาท ภายในปี 2564 และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 40 ล้านบาท ภายในปีนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต 

ขณะที่ผลประกอบการในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตจากปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 614.90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 34.80 ล้านบาท ล่าสุด ผลงานไตรมาส 1 ปี 2564 รายได้รวมเท่ากับ 152.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10.10 ล้านบาท อีกทั้ง MENA มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40%

ท้ายสุด 'สุวรรณา' ทิ้งท้ายไว้ว่า ธุรกิจขนส่งของบริษัทมีจุดแข็งในด้านศักยภาพการเติบโตสูง ได้รับประโยชน์จากงานโครงสร้างพื้นฐาน และงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ สอดรับนโยบายการลงทุนของภาครัฐและเอกชน เนื่องจาก รถขนส่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ขับเคลื่อนงานโครงการต่างๆ

  162521218886