KBANKชี้ยอดรูดบัตรเครดิตพุ่ง24%

KBANKชี้ยอดรูดบัตรเครดิตพุ่ง24%

KBANK ชี้ โควิด หนุน ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตพุ่ง 24%   พร้อมจับมือ ”แรบบิท ไลน์ เพย์” เพิ่มยอดบัตรใหม่ปีนี้อีก 1.35 แสนใบ แตะ 4.4 แสนใบปีนี้ 

นางชลารัตน์ พินิจเบญจพล รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งออฟไลน์และออนไลน์มีการขยายตัวมากขึ้นหรือราว 24% โดยหมวดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะสอดคล้องกับการใช้ชีวิตยุคนิวนอร์มอลที่ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านและรักษาสุขภาพ ทำให้ยอดใช้จ่ายเกี่ยวกับการปรับปรุงบ้านและด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ ยอดใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวลดลง

ทั้งนี้ ในปีนี้ ปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตอยู่ที่ 3.2 ล้านบัตร ตั้งเป้าเพิ่ม 4.4 แสนบัตร และยอดการใช้จ่ายอยู่ที่ 3.4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ จะเป็นการเพิ่มของบัตรใหม่ที่ร่วมมือกับบริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำนวน 1.35 แสนบัตร วงเงินใช้จ่าย 2.9 พันล้านบาท

สำหรับความร่วมมือกับแรบบิท ไลน์ เพย์ นั้น นางชลารัตน์กล่าวว่า เป็นการเพิ่มช่องทางการชำระเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารในการขยายเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำที่อยู่ใน Ecosystem ด้วยการผสานจุดแข็งของแต่ละฝ่าย เพื่อร่วมกันนำเสนอบริการที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน รวมถึง การสนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายโดยไม่ใช้เงินสด (Cashless Payment) ซึ่งสะดวก ปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยพบว่า ผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยอดใช้จ่ายที่ไม่สูง เช่น ค่าโดยสารรถไฟฟ้า และค่าซื้อสินค้าจากร้านอาหารประเภท Grab & GoLINE POINTS เครดิตการ์ด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบนิวนอร์มอลที่ชื่นชอบการใช้จ่ายออนไลน์และคุ้นเคยกับการใช้อีวอลเล็ต (e-Wallet) โดยทุกการใช้จ่ายได้รับ LINE POINTS ที่เยอะ ง่าย และไว รวมถึงสามารถนำ LINE POINTS ไปใช้เป็นส่วนลดแทนเงินสดเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการอื่นๆ ได้อย่างคุ้มค่า จากร้านค้ารายย่อยและแบรนด์ต่างๆ กว่า 300,000 ร้าน ง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน

ทั้งนี้ LINE POINTS เครดิตการ์ด จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขยายฐานลูกค้าของ Rabbit LINE Pay จากปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 8 ล้านคน ซึ่งเติบโตขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา