ร้านอาหารโอด ’ห้ามนั่งกิน’ ทุบยอดขาย

หลังจากมีคำสั่ง ศบค. ล่าสุดให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม กรุงเทพและปริมณฑล ที่อยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะวิกฤติด้านสาธารณสุข เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีจำนวนมากกว่าหลายพันรายต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องปรับมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19ใหม่ให้รัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการร้านอาหาร

โดยให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ซึ่งรวมถึงร้านที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ โรงแรม ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ตลาด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดค้าส่ง ตลาดโต้รุ่ง หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันและมีการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้เปิดดำเนินการเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป(28 มิ.ย.)

จากการสำรวจพบว่าร้านอาหารต่างๆ เปิดให้บริการตามปกติแต่ค่อนข้างเงียบเหงา ผู้ประกอบการต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ายอดขายหายไปมากกว่า 50% เพราะคนไม่กล้าออกมาใช้จ่าย มาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมาไม่ช่วยทำให้รายได้ดีขึ้นมากนัก และการห้ามนั่งรับประทานในร้านก็ยิ่งทำให้รายได้ลดลงไปอีก ขณะที่ต้นทุนของทางร้านไม่ได้ลดลงทั้งค่าเช่าที่ ค่าจ้างพนักงาน

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอยากให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยเร็ว โดยการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงประชาชนทุกคน และอยากให้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการมากกว่านี้ เช่น การให้เงินชดเชย การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้ เนื่องจากรายได้ตอนนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง