ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังคาดเศรษฐกิจยุโรปฟื้น

ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังคาดเศรษฐกิจยุโรปฟื้น

“ไทยออยล์” ชี้ ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นปรับเพิ่ม แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวหลังเปิดเศรษฐกิจในยุโรป ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ต่ำสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 63

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ประเมินทิศทางราคาน้ำมันระยะสั้นปรับเพิ่ม แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรป หลังผู้คนเริ่มกลับมาทำกิจกรรมการเดินทางและพักผ่อนอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเยอรมัน ที่แสดงตัวเลขการค้าปลีกพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี โดยนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าเศรษฐกิจของเยอรมันกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากการปิดล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของเยอรมันเติบโต 1.3% ในไตรมาสที่สองและ 3.6% ในไตรมาสถัดไป

ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. 64 ปรับตัวลดลง 7.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 459.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 

162458721821

นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาการการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 1 ก.ค. 64 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะสามารถเริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน ส.ค. โดยไม่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

โดยปิดตลาดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2564 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อยู่ที่ 73.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบรนท์ อยู่ที่ 75.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และดูไบ อยู่ที่ 73.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

162458720522

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ พบว่า ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 18 มิ.ย. 2564 ปรับลด 2.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น  833,000 บาร์เรล

ส่วนราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่สูงขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตของจีน ในขณะเดียวกันความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นลดลง เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางหลังโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง

โดยปิดตลาดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2564 ราคาน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 83.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 78.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล