NUSA เผย Q1/67 ขาดทุน 126.5 ล้านบาท กลุ่ม "เทพเจริญ" ยังมีสินทรัพย์ในกิจการ
ณุศาศิริ (NUSA) เผย Q1/67 ขาดทุนเพิ่มราว 10% เทียบ Q1/66 โดยมีตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยสูญ 58 ล้านบาท ด้านความคืบหน้ากรณีขจัดความขัดแย้งผลประโยชน์กลุ่มณุศาศิริยังไร้การเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม กลุ่ม "เทพเจริญ" ยังมีสินทรัพย์ในกิจการ มีประเภทกลุ่มรอผลคดีให้ถึงที่สุดคงเหลือ 9 แปลง
นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ และ นายไพโรจน์ ศิริรัตน์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า งบกำไรขาดทุนสำหรับงวดสิ้นสุด วันที่ 31 มี.ค.2567 บริษัท มีรายได้รวมตามงบการเงินรวม จำนวน 413 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 121 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 41 จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจาก
1.รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวน 118 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 136 จากปีก่อน รายได้โดยส่วนใหญ่เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ในโครงการเขาใหญ่จำนวน 68 ล้านบาท และการขายเพื่อชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ของกลุ่มบริษัท จำนวน 60 ล้านบาท
2.รายได้จากเงินปันผลเพิ่มขึ้นจำนวน 39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 100 จากปีก่อน เป็นเงินปันผลรับของเงินลงทุนในตราสารจากบริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ประกาศจ่ายเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 จำนวน 5 บาท ต่อหุ้น
3.รายได้อื่นลดลงจำนวน 33 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 57 จากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยรับ - กิจการที่เกี่ยวข้องกันเนื่องจากมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญส่วนที่เพิ่มขึ้นในงวดบัญชีทั้งหมด จำนวน 58 ล้านบาท
หมายเหตุ: ในระหว่างงวด บริษัท และบริษัทย่อยได้โอนจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 7 รายการ และอาคารชุดจำนวน 14 รายการ เพื่อจ่ายชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ค่ารับเหมาก่อสร้าง เงินประกันผลงาน เงินชดเชยจากการบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนดของกลุ่มบริษัทจำนวน 60 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานรวม สำหรับงวดสิ้นสุด วันที่ 31 มี.ค.2567 มีผลขาดทุนสุทธิ 134 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจำนวน 15 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปีก่อน และขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ราว 127 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจำนวน 12 ล้านบาท เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ กรรมการผู้มีอำนาจ NUSA ยังเปิดเผยเพิ่มเติมต่อกรณี รายงานความคืบหน้าของการดำเนินการขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ กลุ่มณุศาศิริ ว่า ความเปลี่ยนแปลงของอสังหาริมทรัพย์บางรายการที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเป็นเจ้าของ โดย ณ วันที่ 31 มี.ค.2567 ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากที่คณะกรรมการบริหารชุดเดิมได้รายงานไว้ในไตรมาสก่อนหน้าดังนี้