การท่าเรือฯ โชว์ผลประกอบการ 6 เดือน ภาคส่งออกฟื้น หนุนกำไรสุทธิ 2.9 พันล้าน

การท่าเรือฯ โชว์ผลประกอบการ 6 เดือน ภาคส่งออกฟื้น หนุนกำไรสุทธิ 2.9 พันล้าน

กทท. เผยผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ตู้สินค้าผ่านท่าขยายตัว 2.05% ดันกำไร 2,969 ล้านบาท หลังภาคส่งออกฟื้นตัวตามเศรษฐกิจและการค้าโลก

เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในการให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน ประจำปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563 – มีนาคม 2564) โดยเปรียบเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน สรุปดังนี้

1. ท่าเรือกรุงเทพ มีปริมาณเรือเทียบท่า 1,961 เที่ยว ลดลง 0.81% สินค้าผ่านท่า 10.621 ล้านตัน ลดลง 3.65% ตู้สินค้าผ่านท่า 0.720 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง 0.70%

2. ท่าเรือแหลมฉบัง มีปริมาณเรือเทียบท่า 4,601 เที่ยว ลดลง 11.52% สินค้าผ่านท่า 43.588 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.10% ตู้สินค้าผ่านท่า 4.074 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 2.56%

3. ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน มีปริมาณเรือเทียบท่า 1,129 เที่ยว ลดลง 36.39% สินค้าผ่านท่า 47,092.68 ตัน ลดลง 61.04% ตู้สินค้า ผ่านท่า 2,585 ที.อี.ยู. ลดลง 52.42%

4. ท่าเรือเชียงของ มีปริมาณเรือเทียบท่า 4 เที่ยว ลดลง 97.24% สินค้าผ่านท่า 24 ตัน ลดลง 99.06%

5. ท่าเรือระนอง มีปริมาณเรือเทียบท่า 2 เที่ยว เพิ่มขึ้น 100% สินค้าผ่านท่า 47,365 ตัน ลดลง 33.00% ตู้สินค้าผ่านท่า 1,661 ตู้ ลดลง 23.88%

สำหรับผลการดำเนินงานของ กทท. ในรอบ 6 เดือน (ตุลาคม 2563 – มีนาคม 2564) มีทิศทางฟื้นตัว อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง รวม 6,562 เที่ยว ลดลง 8.57% สินค้าผ่านท่า 54.208 ล้านตัน ลดลง 0.66% และตู้สินค้าผ่านท่า 4.794 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 2.05% คิดเป็นกำไรสุทธิ 2,969 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.47% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ จากการขยายตัวของตู้สินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้น 2.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สืบเนื่องจาก การได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัวตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก ประกอบกับ หลายประเทศได้แจกจ่ายและฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กับประชาชนของตน ได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการผลิตส่งผลให้ความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางเพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น