‘หุ้นไทย’ สัปดาห์นี้ส่อผันผวน จับตาเฟดส่งสัญญาณดอกเบี้ย

 ‘หุ้นไทย’ สัปดาห์นี้ส่อผันผวน จับตาเฟดส่งสัญญาณดอกเบี้ย

"หุ้นไทย" ร่วง กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด "เอเซีย พลัส" ชี้ สัปดาห์นี้ผันผวน จับตาประธานเฟดสาขาต่างๆ เผยทิศทางดอกเบี้ย "บล.ยูโอบีฯ" แนะติดตามเงินไหลออก ด้านนายกสมาคมทองคำ ชี้ราคาทองไร้ทิศทาง คาดวันนี้ภาพชัดเจนขึ้นหลังถ้อยแถลง "เจอโรม พาวเวล"

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (21 มิ.ย.) ผันผวนหนัก โดยช่วงเช้าปรับตัวต่ำสุด 22.43 จุด ที่ 1,590.55 จุด ก่อนที่รีบาวด์กลับมาปิดตลาดที่ 1,601.13 จุด ลดลง 11.85 จุด หรือ 0.73% มูลค่าการซื้อขาย 83,153.17 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,244.39 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,022.07 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 411.48 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 4,854.98 ล้านบาท

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยนักลงทุนเพิ่มความกังวลกรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ ภายหลังนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์​ ระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565 เร็วขึ้น จากสัปดาห์ก่อน (14-18 มิ.ย.) ที่มุมมองเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของกรรมการเฟดรายคน (Dot Plot) ชี้ว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566

162428853148

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นในภาคบ่ายวานนี้รีบาวด์ขึ้นเล็กน้อย และปิดลบที่ระดับประมาณ 1,600 จุด โดยคาดว่านักลงทุนรอติดตามความเห็นของประธานเฟดสาขาอื่นๆ ซึ่งจะทยอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายของเฟดในระยะข้างหน้ามากขึ้น โดยระยะสั้นคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะกดดันให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ กล่าวคือ หากประธานเฟดสาขาอื่นให้ความเห็นดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น แต่หากให้ความเห็นดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้น

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในช่วงสัปดาห์นี้ (22-25 มิ.ย.64) โดยมีแนวรับ 1,600 และ1,580 จุด  ส่วนแนวต้านที่ 1,620 จุด ขณะที่การลงทุน แม้ว่าปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศจะเป็นปัจจัยลบ แต่ในประเทศยังมีปัจจัยบวกจากพัฒนาการการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงการนำร่องเปิดประเทศของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์วันที่ 1 ก.ค.นี้ จึงแนะนำซื้อสะสมหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ (Reopening)

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยู​โอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงวานนี้เช่นเดียวกับตลาดอื่น โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กปรับตัวลงน้อยกว่า เพราะมีสัญญาณการเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามาหนุน สะท้อนว่านักลงทุนยังรอประเมินว่าความกังวลเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้จะนำไปสู่เงินทุนไหลออกหรือไม่ โดยแนะนำติดตามการขายของนักลงทุนต่างชาติสุทธิในช่วง 2-3 วันข้างหน้า

สำหรับในวันนี้ (22 มิ.ย.) ติดตามความเห็นของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะเห็นด้วยกับความเห็นก่อนหน้าของ นายเจมส์ บูลลาร์ด เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ หากเห็นด้วยจะยิ่งกดดันตลาด แต่หากไม่เห็นด้วยจะช่วยลดทอนความกังวลในครั้งนี้ลง ขณะที่สัปดาห์นี้ประเมินดัชนีหุ้นไทย มีแนวรับสำคัญที่ 1,606 จุด หากตลาดปรับตัวลงหลุดระดับนี้คาดจะปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 1,580 จุด แต่หากผ่านไปได้จะปรับตัวสู่แนวต้านที่ 1,630 จุด

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองวานนี้ขยับขึ้น 300 บาท จากปัจจัยค่าเงินบาทอ่อนค่าค่อนข้างแรงเป็นหลัก ในขณะที่ราคาทองคำโลก (Spot Gold) ยังทรงตัว แม้ว่าตลาดจะมีความกังวลเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด แต่ราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับฐานและยังมีทิศทางไม่ชัดเจน โดยแนะนำติดตามถ้อยแถลงของ นายพาวเวล ในวันนี้ คาดว่าจะเห็นภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้นได้ชัดเจนมากขึ้น