'กสิกรไทย' มองหุ้นไทย 21-25 มิ.ย.แกว่ง 1,585-1,635 จุด

'กสิกรไทย' มองหุ้นไทย 21-25 มิ.ย.แกว่ง 1,585-1,635 จุด

"บล.กสิกรไทย" ชี้แนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (21-25 มิ.ย.) แนวรับ 1,585-1,600 จุด แนวต้าน 1,625-1,635 จุด ฝั่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย แนะจับตาประชุม กนง. 23 มิ.ย.นี้ การประกาศตัวเลขส่งออก-โควิดในประเทศ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า หุ้นไทยร่วงลงเกือบตลอดสัปดาห์ (14-18 มิ.ย.2564) โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,698 จุด ลดลง 1.44% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 92,767.00 ล้านบาท ลดลง 6.28% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.11% มาปิดที่ 505.51 จุด

หุ้นไทยร่วงลงตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ ตามแรงกดดันในหุ้นกลุ่มธนาคารและการเงิน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการปรับทบทวนเพดานสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียน หลังรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชน หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้ช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ ก่อนจะร่วงลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิม นอกจากนี้แผนการกระจายวัคซีนในประเทศที่ยังมีความท้าทายก็เป็นปัจจัยลบต่อหุ้นไทยเช่นกัน 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (21-25 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,585 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,625 และ 1,635 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 23 มิ.ย. ตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค. ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงรายระเอียดเกี่ยวกับแผนการเปิดประเทศ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน อัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index และรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือน พ.ค. ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือน มิ.ย. ของจีน