เปิดจังหวัดฉีด'วัคซีนโควิด-19'จำนวนโดสสูงสุด

เปิดจังหวัดฉีด'วัคซีนโควิด-19'จำนวนโดสสูงสุด

ไทยติดเชื้อทะลุ 2 แสนราย ฉีดวัคซีนโควิด-19แล้ว 6.5 ล้านโดส เฉพาะกทม.-ปริมณฑลได้เข็ม1แล้วกว่า 2 ล้านคนใกล้เคียงยอดในอีก 71 จังหวัด เฉพาะภูเก็ตครอบคลุมกว่า 60%

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า ตั้งแต่ 28 ก.พ.2564 ประเทศไทยมีการจัดสรรวัคซีนแล้ว 7,082,361 โดส มีการฉีดแล้ว 6,511,184 โดส เป็นเข็ม 1 จำนวน 4,762,063 ราย และครบ 2 เข็มจำนวน 1,749,121 ราย

พื้นที่ กทม. และปริมณฑล มีประชากรรวม 14,852,388 ราย มีการฉีดเข็ม 1 แล้วจำนวน 2,057,625 ราย ครอบคลุม 13.85% เข็ม 2 จำนวน 660,375 ราย ครอบคลุม 4.45% เมื่อแยกรายจังหวัด พบว่า กทม.ประชากร 7,699,174 คน ฉีดวัคซีนเข็ม 1 จำนวน 1,433,304 ราย ครอบคลุม 18.62% เข็ม 2,395, 057 ราย ครอบคลุม 4.45% นนทบรี ประชากร 1,609,191 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 194,056 ราย ครอบคลุม 12.06% เข็ม 2 จำนวน 70,551 ราย ครอบคลุม 4.38 %

สมุทรปราการ ประชากร 1,931,726 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 153,507 ราย ครอบคลุม 7.95% เข็ม 2 จำนวน 44,298 ราย ครอบคลุม 2.29 % ปทุมธานี ประชากร 1,533,781 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 96,146 ราย ครอบคลุม 6.27 % เข็ม 2 จำนวน 28,817 ราย ครอบคลุม 1.88% สมุทรสาคร ประชากร 953,167 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 142,928 ราย ครอบคลุม 15% เข็ม 2 จำนวน 108,587 ราย ครอบคลุม 11.39 % และนครปฐม ประชากร 1,125,349 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 37,684 ราย ครอบคลุม 3.35 ราย ฉีดเข็ม 2 จำนวน 13,064 ราย ครอคลุม 1.16%

ส่วนใน 71 จังหวัด มีประชากรรวม 55,262,208 ราย ฉีดเข็ม 1 แล้ว 2,234,793 ราย ครอบคลุม 4.04 เข็ม 2 จำนวน 882,311 ราย ครอบคลุม 1.60 % ในจำนวนนี้ที่จ.ภูเก็ต ประชากร 547,584 คน ฉีดเข็มที่ 335,472 ราย ครอบคลุม 61.26% เข็ม 2 จำนวน 153,845 ราย ครอบคลุม 28.10% ระนอง ประชากร 228,507 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 33,132 ราย ครอบคลุม 14.50 % เข็ม 2 จำนวน 14,531 ราย ครอบคลุม 6.36 %
และสุราษฎร์ธานี มีประชากร 1,144,089 ราย ฉีดเข็ม 1 แล้ว 101,041 ราย ครอบคลุม 8.83% เข็ม 2 จำนวน 38,059 ราย ครอบคลุม 3.33 % แยกเป็น พื้นที่เกาะสมุย มีประชากร 125,229 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 57,523 ราย ครอบคลุม 45.93% เข็ม 2 จำนวน 26.309 ราย ครอบคลุม 21.01% ส่วน เกาะพะงั้น ประชากร 26,092 คน ฉีดเข็ม 1 แล้ว 2,248 ราย ครอบคลุม 8.62 % เข็ม 2 จำนวน310 ราย ครอบคลุม 1.19 % และเกาะเต่า ประชากร 5,498 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 873 ราย ครอบคลุม 15.88% เข็ม 2 จำนวน 50 ราย ครอบคลุม 0.91 %

ติดเชื้อใหม่ 3,000 ราย สะสมทะลุ2แสนราย

ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 3,000ราย แบ่งเป็นพบในระบบเฝ้าระวังรพ. 1,814 ราย การคัดกรองเชิงรุก 541 ราย จากเรือนจำ 640ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 202,264 ราย เสียชีวิตสะสม 1,485 ราย ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 4,774 ราย ยังเหลือรักษาอยู่ 38,061 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,249 ราย ในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 365 ราย


ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 19 ราย ในกทม. 11 ราย สมุทรปราการ 3 ราย สระบุรี 2 ราย นครศรีธรรมราช ปราจีนบุรีและยะลา จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่ยังมีปัจจัยเสี่ยงเหมือนเดิม ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 11 ราย หญิง 8 ราย อายุต่ำสุด 34 ปี สูงสุด 92 ปี อายุกลางเฉลี่ยยังเป็นผู้สูงอายุ คือ 77 ปี

10จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อใหม่สูงสุด คือ กทม.872 รายมีคลัสเตอร์เฝ้าระวัง 85 แห่งโดยเป็นคลัสเตอร์ใหม่ 1 แห่ง คือ แคมป์ก่อสร้างคอนโดศุภาลัยปาร์ค แยกไฟฉาย เขตบางกอกน้อย เจอติดแล้ว 96 รายจากการตรวจ 363 รายคิดเป็นื26.45% สมุทราปราการ 336 รายมี 2 คลัสเตอร์ใหม่ บริษัทผลิตขนมอบกรอบ พื้นที่บางเสาธง ติดเชื้อ 63 ราย คอนโดมิเนียมพื้นที่พระประแดง ติดเชื้อ 10 ราย ปทุมธานี 202 ราย สมุทรสาคร 163 รายมี 1 คลัสเตอร์ใหม่ โรงงานกล่องกระดาษ 10 ราย นครปฐม 88 ราย ระนอง 76 ราย ฉะเชิงเทรา 72 ราย มี 2 คลัสเตอร์ใหม่ บริษัทคัดแยกและรีไซเคิล อ.พนมสารคาม ติดเชื้อ 13 ราย บริษัทชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ พื้นที่บ้านโพธิ์ ติดเชื้อ 17 ราย ปัตตานี 61 ราย สงขลา 57 ราย และนนทบุรี 56 ราย นอกจากนี้ นครปฐมมีคลัสเตอร์ใหม่ บริษัทเอกชนในอ.สามพราน ติดเชื้อ 16 ราย และปราจีนบุรี มีคลัสเตอร์ใหม่ บริษัทอุปกรณ์ระบบส่งน้ำ อ.กบินทร์บุรี ติดเชื้อ 4 ราย

ขอผู้ปกครองประเมินอาการป่วยบุตรหลานทุกวัน

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า การเปิดเทอมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยก่อนเปิดเทอมเพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจ ทาง ศธ. มีกระบวนการสำคัญ 2 อย่าง คือ 1.ขอให้ทางสถานศึกษาทุกแห่งมีการประเมินใน Thai Stop Covid Plus ซึ่งเป็นชุดคำถามจัดโดยกรมอนามัย โดยก่อนจะเปิดพบว่า โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) 29,000 แห่ง และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) อีกกว่า 5 พันแห่ง พบว่า 99.1% ของสถานศึกษาเหล่านี้ผ่านการประเมินของ Thai Stop Covid Plus แล้ว เหลืออีกเกือบ 1% ในส่วนของสังกัด อว. หรือมหาวิทยาลัยยังไม่ได้เปิดการเรียนการสอน จึงยังไม่มีการประเมิน ส่วนโรงเรียนสังกัดกทม. 437 โรงเรียน ก็ต้องทำแบบประเมินเช่นกัน เมื่อโรงเรียนเข้าใจมาตรการควบคุมโรคก็จะเป็นการยืนยันให้เกิดความมั่นใจได้

และ2.กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)และกรมควบคุมโรคขอเน้นย้ำให้ครู ผู้ปกครอง ทำการประเมินผ่าน "ไทยเซฟไทย" เพื่อให้เกิดมาตรฐานทั้งสถานศึกษา และตัวผู้ปกครอง นักเรียน เป็นการประเมินสุขภาพรายวันก่อนมาโรงเรียน ตรวจไข้ วัดอุณหภูมิ คล้ายๆ พาสปอร์ต ขณะที่ศธ.มีการซักซ้อมแผน หากเกิดติดเชื้อก็มีแนวทางให้โรงเรียน ผู้ปกครองได้ปฏิบัติ แต่การปิดโรงเรียนอาจไม่ตอบโจทย์ เช่น หากพบผู้ติดเชื้อ 1-2 รายใน 1 ห้องเรียน จึงต้องขอให้ทั้งสถานศึกษา ผู้ปกครองศึกษามาตรการเหล่านี้ด้วย
ส่วนกรณีเด็กพิเศษ ผู้พิการและโรงเรียนประจำ กลุ่มนี้มีการจัดการแตกต่าง ขณะนี้ยังเปิดเรียนไม่ได้ เพราะด้วยความต้องเข้าไปโรงเรียนประจำกินนอน ต้องมีมาตรการเพิ่ม ซึ่งกลุ่มนี้ต้องมีการตรวจRapid test เพื่อยืนยันว่าไม่เป็นผู้ติดเชื้อก่อนเข้าไปศึกษาในโรงเรียน ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัย