'เรืองไกร'ชง'นายกฯ-ดีอีเอส'ฟัน 'ยุทธพงศ์-พท.'ผิดพ.ร.บ.คอมฯ ปูดข้อมูลเท็จงบลับ
"เรืองไกร" จับเท็จ "ยุทธพงศ์-เพื่อไทย" ตั้งโต๊ะแถลง-โพสต์เฟซบุ๊คพรรค ปูด งบลับ แทรกซึมทุกกระทรวง โผล่ 19 รายการ "สปน." 558 ล้าน ทั้งที่ในเอกสารราชการไม่พบข้อมูลตามอ้าง ชี้ เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมฯ จี้ นายกฯ-ดีอีเอส" เอาผิด
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2565 เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. ตนได้ติดตามข่าวที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นเรื่องงบลับใน ร่างพ.ร.บ.งบฯปี65 โดยตลอดมา จนพบประเด็นเกี่ยวกับงบลับที่นายยุทธพงศ์ แถลงข่าวแล้วมีการโพสต์ในเฟซบุ๊คของพรรคเพื่อไทยด้วย 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 64 เป็นคลิปที่นายยุทธพงศ์ กับส.ส.อีกคนหนึ่ง แถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีการกล่าวถึงเงินงบลับในร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี65
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 64 มีการโพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊คของพรรคเพื่อไทย โดยลงข้อมูลในทำนองที่ว่า งบลับ แทรกซึมไปในทุกกระทรวงทุกสำนัก ทบวง กรมต่างๆ
ครั้งที่ 3 วันที่ 7 มิ.ย. 64 มีการโพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊คของพรรคเพื่อไทย โดยลงข้อความระบุว่างบลับ อยู่ที่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีโดยตรง มีเงินราชการลับ 19 รายการ รวมทั้งสิ้นถึง 558 ล้านบาท
นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อนำคลิปและข้อมูลงบลับดังกล่าวไปตรวจสอบกับเอกสารงบประมาณปี 2565 (เล่มขาวคาดแดง) พบว่า ไม่มีงบลับแทรกซึมไปในทุกกระทรวงทุกสำนัก ทบวง กรมต่างๆ แต่อย่างใด แต่มีเพียงบางหน่วยเท่านั้น
อีกทั้งยังพบว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ในร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี65 มาตรา 7 รายการที่ 1 และในเอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 3 เล่ม1 พบว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไม่มีรายการงบลับ 19 รายการ รวมทั้งสิ้น 558 ล้านบาท ตามที่แถลงข่าวและโพสต์ลงในเฟซบุ๊คของพรรคเพื่อไทย แต่อย่างใด จากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่า งบลับดังกล่าวมีการตั้งไว้ที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในมาตรา 7 รายการที่ 15 ตามรายละเอียดในฉบับที่ 3 เล่ม 1 หน้า 345
นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อคลิปแถลงข่าวและข้อมูลงบลับที่อยู่ในเฟซบุ๊คของพรรคเพื่อไทย เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับเอกสารงบประมาณรายจ่าย 2565 กรณีนี้จึงมีเหตุต้องตรวจสอบว่า คลิปและข้อมูลในเฟซบุ๊คของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 ครั้งดังกล่าวข้างต้น จะเข้าข่ายเป็นความผิดตามความในมาตรา 14 และหรือมาตรา 15 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ เมื่อมีการนำคลิปและข้อมูลงบลับดังกล่าวลงในเฟซบุ๊คพรรคเพื่อไทย ซึ่งเผยแพร่สู่สาธารณะ ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ และเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมฯ เกิดขึ้นแล้ว และงบลับเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งไม่ทราบว่า กระทรวงดิจิทัลพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ดำเนินการหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำใดๆ ที่อาจฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องที่นายยุทธพงศ์ กับพรรคเพื่อไทย นำข้อมูลเรื่องงบลับมากล่าวอ้างแล้วเผยแพร่ในเฟซบุ๊คดังกล่าว แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในเอกสารงบประมาณ 2565 ของทางราชการ ประกอบกับแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่นำมาศึกษาเทียบเคียง กรณีจึงมีเหตุต้องขอให้นายกฯ ตรวจสอบว่า นายยุทธพงศ์ กับพรรคเพื่อไทย มีการกระทำที่จะเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมฯ หรือไม่
"ในวันที่ 14 มิ.ย. ตอนเช้า ผมจะไปส่งเรื่องนี้ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกฯ ตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็ว พร้อมทั้งขอให้สั่งกระทรวงดิจิทัลญ ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไปอีกทางหนึ่งด้วย" นายเรืองไกร กล่าว