เรดาร์ 360 องศา อีกขั้น ของระบบขับขี่อัตโนมัติ

เรดาร์ 360 องศา อีกขั้น ของระบบขับขี่อัตโนมัติ

เชื่อกันว่า 2 เสาหลักของโลกยานยนต์ในอนาคต คือ พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้า และระบบขับขี่อัตโนมัติ (automomous) ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าบรรดาผู้ผลิต ทั้งรายเก่า และรายใหม่ ต่างมุ่งไปยังถนน 2 สายนี้

          

ระบบขับขี่อัตโนมัติ หรือ autonomous driving ถูกนำมาใช้ยาวนานหลายปีแล้ว แต่เป็นในระดับเริ่มต้น โดยระบบขับขี่อัตโนมัติ แบ่งออกเป็น 5 ระดับ (level) สูงสุดคือระดับ 5

ระบบขับขี่อัตโนมัติ จะมีการทำงานของหลายๆ ระบบประกอบกัน และหากขึ้นไปถึงระดับ 5 ที่ คนไม่ต้องขับ จะต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งรถ สิ่งแวดล้อม หรือว่าระบบจราจร

ปัจจุบัน รถส่วนใหญ่ ก็มีระบบขับขี่อัตโนมัติติดตั้งมาให้ เช่น ในระดับเริ่มต้น level 1 ก็จะได้เห็นระบบอย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ cruise control หรือ ยกระดับขึ้นไปเป็น ควบคุมแบบรักษาระยะห่างจากคันหน้าที่เรียกว่า Adaptive cruise control ก็ยังอยู่ใน level 1 เป็นต้น

การจะยกระดับ การขับขี่อัตโนมัติให้ถึงขั้นสุดได้นั้น ระบบต่างๆ ต้องเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และระบบที่มีอยู่แล้ว ก็ต้องพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน ให้ทำงานรวดเร็ว แม่นยำ และมีส่วนช่วยเหลือระบบอื่นๆ ด้วย

ซึ่งปัจจุบันเราก็จะได้ข่าวคราว การพัฒนาระบบต่างๆ ของบรรดาผู้ผลิต ผู้พัฒนาระบบ ที่คอยป้อนให้กับโรงงานผลิตรถยนต์อย่างต่อเนื่อง

อย่างเช่นล่าสุด ผู้ผลิตรายใหญ่จากเยอรมนี “คอนติเนนทอล” ออกมาบอกว่า พัฒนา เรดาร์ใหม่ ซึ่งเป็นเรดาร์ครอบคลุมรอบทิศทาง 360 องศา และเรดาร์ตรวจจับได้ไกลกว่า 200 เมตร เป็นรุ่นที่ 6 จุดเด่นในการทำงานคือ มันลดคามซับซ้อน ส่วนจุดเด่นในเชิงธุรกิจคือ ประหยัดต้นทุน

ต้นทุนที่ลดลงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรดาร์ทั้ง 2 แบบนี้ ใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เดียวกัน จึงสามารถลดความซับซ้อนลงไปได้ รวมถึงการการทดสอบและพัฒนาของลูกค้าหรือผู้ผลิตรถยนต์ก็น้อยลงด้วย

ทั้งนี้การพัฒนา เรดาร์ใหม่ นี้ คอนติเนนทอล ระบุว่า มันครอบคลุมข้อกำหนดของ NCAP ในการคาดการณ์ไปจนถึงการขับขี่อัตโนมัติ

ทั้งนี้คอนติเนนทอลนั้น มีผลงานด้านเซ็นเซอร์ เรดาร์ มามากกว่า 20 ปี ถึงปัจจุบันมีเซ็นเซอร์ เรดาร์ ใช้งานแล้วมากกว่า 100 ล้านตัวในตลาดทั่วโลก

ส่วนรุ่นที่ 6 นี้ มีกำหนดเปิดสายการผลิตนปี 2566 และขณะนี้มีคำสั่งซื้อเบื้องต้นจากลูกค้าแล้ว

162182860283

คอนติเนนทอล ยืนยันว่า เรดาร์ รุ่นที่ 6 ทำงานได้ดีกว่ารุ่นที่ 5 อย่างชัดเจน และมีความหลากหลายในการทำงานมากกว่า รองรับระบบการขับขี่อัตโนมัติตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ไปจนถึงขั้นสูง เช่น การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ

ที่สำคัญคือ เรดาร์ รุ่นใหม่ยังรองรับรถยนต์ได้หลายประเภท หลายรูปแบบ

“เซ็นเซอร์เรดาร์ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งในอนาคตมันจะให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการจราจรที่ท้าทายมากขึ้น เช่น การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติในขณะข้ามแยก และการตรวจจับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เนิ่นๆ ที่จะทำการทดสอบโดย Euro NCAP ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ท้องถนนจะปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้นในอนาคตด้วยเซ็นเซอร์เรดาร์รุ่นที่ 6” แฟรงค์ เพซนิค หัวหน้าหน่วยธุรกิจระบบผู้ช่วยผู้ขับขี่ขั้นสูงของคอนติเนนทอลกล่าวอธิบาย

ทั้งนี้โดยปกติแล้ว เรดาร์จะถูกติดตั้งในตำแหน่งที่เข้าถึงยากของตัวรถ เพื่อความปลอดภัยของเรดาร์เอง ทำให้มีปัญหาต่อการทำงาน โดยเฉพาะพื้นที่ด้านข้างของตัวรถ แต่คอนติเนนทอล ยืนยันว่าเรดาร์รอบทิศทางยังสามารถช่วยเหลือผู้ขับขี่และขับขี่อัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยการติดตั้ง เรดาร์ 360 องศา จะอยู่ที่มุมด้านหน้าและกันชนท้ายรถที่มีสีเคลือบอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เพราะโครงสร้างและผิวเคลือบของกันชนอาจส่งผลต่อสัญญาณเรดาร์

ส่วนเรดาร์ระยะไกลจะติดตั้งอยู่ตรงกลางด้านหน้ารถซึ่งจะมีฝาครอบป้องกันเรียกว่าเรโดมที่ทำจากพลาสติกที่คลื่นวิทยุซึมผ่านได้