7 เมนู กิน 'เสริมภูมิคุ้มกัน' ช่วยต้านโควิด-19

7 เมนู กิน 'เสริมภูมิคุ้มกัน' ช่วยต้านโควิด-19

"กรมอนามัย" เผย 7 เมนูให้คุณค่าทางโภชนาการ "เสริมภูมิคุ้มกัน" ลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นพ.สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ นอกจากการปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA ด้วยการสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน  หมั่นล้างมือบ่อย และเว้นระยะห่างแล้ว

การเลือกกินอาหารที่ดี และมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อให้ได้รับปริมาณสารอาหารแต่ละชนิดเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน จะมีส่วนช่วย "เสริมภูมิคุ้มกัน"ของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติและเต็มศักยภาพ ดังนั้น ประชาชนสามารถสร้างสรรค์ "เมนูอาหาร" ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและช่วย "เสริมภูมิคุ้มกัน" ป้องกันโรคได้ 

  • 7เมนู "เสริมภูมิคุ้มกัน"ลดการติดเชื้อ

โดย "กรมอนามัย"ขอแนะนำ 7 เมนู "เสริมภูมิคุ้มกัน"ต้านโควิด-19 ได้แก่

เมนูที่ 1 ไข่ยัดไส้ กินมะเขือเทศและแครอทให้ได้อย่างละ ½ ทัพพี จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์ และวิตามินเอ 43 เปอร์เซ็นต์

เมนูที่ 2 ต้มเลือดหมู กินผักกาดหอม ½ ทัพพี ตับหมู 1 ช้อนโต๊ะ เลือดหมู 1 ชิ้นและหมูสับ 1 ช้อนโต๊ะ จะได้รับธาตุเหล็ก 45 เปอร์เซ็นต์

เมนูที่ 3 ต้มยำปลาทู มีมะเขือเทศและน้ำมะนาวเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินซี 42 เปอร์เซ็นต์

เมนูที่ 4 ต้มจืดตำลึงเต้าหู้ไข่ มีส่วนผสมของแครอท ½ ทัพพี และตำลึง 2 ทัพพี จะได้รับวิตามินเอ 42 เปอร์เซ็นต์

เมนูที่ 5 ปลานึ่งขิง หากใช้ปลาทับทิมเป็นส่วนประกอบ จะได้รับวิตามินดี 20 เปอร์เซ็นต์

เมนูที่ 6 ปลาผัดเปรี้ยวหวาน มีส่วนผสมของมะเขือเทศ ½ ทัพพีและพริกหวาน 1 ลูก จะได้รับวิตามินซีเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

เมนูที่ 7 ข้าวผัดหอยลาย มีส่วนผสมของเนื้อหอยลาย ได้รับธาตุเหล็ก 33 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณที่ควรได้รับในแต่ละวัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สุดยอด!! 10 'สมุนไพร' แก้หวัด ต้านโควิด -19 ที่ไม่ควรพลาด

                     ควรมีติดบ้าน!! 'สมุนไพร' ตัวเด็ด 'เสริมภูมิคุ้มกัน' ต้านไวรัส

                     'ฟ้าทะลายโจร' สรรพคุณทางยา รักษาอะไรได้บ้าง นอกจาก 'โควิด-19'

  • เสริม"กิจกรรมทางกาย" พักผ่อน ดูแลตนเอง

ทั้งนี้ การปรุงประกอบอาหารควรเลือกวัตถุดิบที่สด สะอาด และปรุงอาหารให้สุกใหม่ทุกครั้ง ลดกินหวาน มัน เค็ม

นอกจากนี้ควรมี"กิจกรรมทางกาย"ที่เหมาะสมเพื่อเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน เช่น ทำงานบ้าน เต้นแอโรบิกในบ้าน

หรือมีกิจกรรมผ่อนคลายเพื่อลดภาวะเครียด เช่น การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนังออนไลน์ เล่นเกม รวมทั้งดื่มน้ำสะอาด 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน และนอนหลับ"พักผ่อน"ให้เพียงพออย่างน้อย 7 - 9 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง มีสุขภาพดีในระยะยาว