กต. เปิดแผนฉีดวัคซีนโควิด ‘ต่างชาติในไทย’

กต. เปิดแผนฉีดวัคซีนโควิด ‘ต่างชาติในไทย’

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผย แนวทางฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ชาวต่างชาติในไทย ระบุ แรงงานต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงฉีดระยะแรก เหตุจำนวนวัคซีนจำกัด ต้องให้ความสำคัญกับคนไทย และกลุ่มเร่งด่วน ส่วนเดือน มิ.ย.ฉีดให้คณะทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ต่างชาติพำนักในไทย

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับชาวต่างชาติในไทย ว่า แผนการฉีดวัคซีนของไทย พิจารณาบนพื้นฐานของความจำเป็นของ ทุกกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ. 

จำนวนวัคซีนในช่วงต้นของแผนการฉีดวัคซีนในไทยมีจำนวนจำกัด ไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อนเพื่อป้องกันการเสียชีวิต รวมถึงกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อ เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุข 

ในระยะแรกของการฉีดวัคซีน จึงฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง รวมถึงกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงเช่น จังหวัดชายแดน หรือในพื้นที่ชุมชนหนาแน่น ซึ่งเริ่มแล้วฉีดวัคซีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และยังคงดำเนินการอยู่ต่อเนื่อง 

“ส่วนกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในไทยที่อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะได้รับการฉีดวัคซีนในระยะแรกนี้ เช่น กลุ่มผู้โยกย้ายถิ่นฐานและอาสาสมัครสาธารณสุขต่างชาติ” นายธานี ระบุ  

ปัจจุบัน ไทยสามารถจัดหาวัคซีนได้เพิ่มเติมแล้ว โดยในระยะที่สองของแผนการฉีดวัคซีนซึ่งจะเริ่มในเดือนมิถุนายนจนถึงสิ้นปีนี้จะขยายกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครอบคลุมสาธารณชน และกลุ่มที่ทำงานในภาครัฐรวมถึงคณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทย โดยพิจารณาตามความเสี่ยงของบุคคลแอพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ยังไม่ได้รองรับการลงทะเบียนสำหรับต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทย ซึ่งจะเริ่มฉีดวัคซีนในมิถุนายนนี้

กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างจัดทำรูปแบบการลงทะเบียนสำหรับชาวต่างชาติโดยผ่านระบบต่าง ๆ รวมถึงผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ หรือติดต่อกับโรงพยาบาลโดยตรงเพื่ออำนวย ความสะดวกการลงทะเบียนสำหรับชาวต่างชาติให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามที่จะจัดหาวัคซีนให้กับภาคเอกชน โดยภาครัฐ (เช่น องค์การเภสัชกรรม) เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อมาให้ ซึ่งหากสามารถดำเนินการ ได้สำเร็จจะทำให้วัคซีนโควิด-19 สามารถหาซื้อได้ในช่วงระยะที่สองของแผนฯ ซึ่ง กระทรวงการต่างประเทศจะรายงานความคืบหน้าของเรื่องนี้ในโอกาสแรกต่อไป