‘YLG’เผยแนวโน้มทองเดือน พ.ค.สดใสหลังทะลุ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์

‘YLG’เผยแนวโน้มทองเดือน พ.ค.สดใสหลังทะลุ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์

“วายแอลจี” เผยทิศทางทองคำเดือน พ.ค.สดใส ในกรอบแนวรับ 1,782-1,739 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้าน 1,854-1,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดระยะสั้นอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบ้างหลังปรับขึ้นแรง แนะหาโอกาสเข้าซื้อ มองระยะยาวเป็นขาขึ้น ทั้งปีนี้คาดไว้ที่ 1,960-1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือราว 29,000-24,800 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG  เปิดเผยว่า เดือนเมษายนที่ผ่านมาถือว่าเป็นเดือนแรกนับจากต้นปีที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ก่อนที่เดือน พ.ค.ราคาทองคำจะพยายามทดสอบ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลายรอบก่อนมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งการโดนเทขายในช่วงก่อนหน้ามาจากทั้งปัจจัยทางเทคนิค และการส่งสัญญาณของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐที่ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ทองคำเกิดการปรับฐาน

อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าแรงขายที่ผ่านไม่ถือว่าเป็นการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ภาพรวมยังทรงตัวได้ดี จนกระทั้งล่าสุดราคาทะลุผ่าน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในที่สุด

ดังนั้น วายแอลจี มองกรอบการเคลื่อนไหวของทองคำในเดือนพ.ค. โดยมีแนวรับบริเวณ 1,782-1,739 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านมองที่ 1,854-1,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นเงินบาทที่กรอบแนวรับล่างสุด 25,600 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านที่ 27,500 บาทต่อบาททองคำ

วายแอลจี ประเมินว่า แม้ในระยะสั้นทองคำอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่มองว่าการปรับตัวลงจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพราะยังมีจังหวะดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านได้อีก อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อไล่ราคา และเน้นลงทุนระยะสั้นในกรอบ พร้อมตั้งตัดขาดทุนทุกครั้ง เหตุเพราะภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคายังคงมีความผันผวน

แต่ในระยะยาว วายแอลจียังมองว่าราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น เพราะแม้กระทรวงการคลังสหรัฐจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคงมีมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้ปรับขึ้นไปในระดับสูงและจะยังคงอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผน ปัจจัยเหล่านี้จึงยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำในระยะยาว

โดยวายแอลจีให้กรอบทั้งปีไว้ที่ 1,960-1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 29,000-24,800 บาทต่อบาททองคำ