ฉก.ร.25 เข้มชายแดนระนอง-ชุมพร สกัด 'โควิด-19' สายพันธุ์อินเดียแอฟริกา

ฉก.ร.25 เข้มชายแดนระนอง-ชุมพร สกัด "โควิด-19" สายพันธุ์อินเดียแอฟริกา ทำความเข้าใจประชาชน

พันเอก สุวัฒน์ทองใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ฉก.ร.25) กองกำลังเทพสตรี กล่าวขณะเข้าตรวจสอบกำลังพลประจำจุดตรวจทหารและจุดลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติระนอง-ชุมพร กับจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ว่า สืบเนื่องจากกระทรวงสาธารสุขประเทศมาเลเซียตรวจพบ การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาที่มีการแพร่ระบาดในประเทศอินเดีย ที่มีฤทธิ์ในการแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าปกติถึง 8 เท่า ทำให้สถานการณ์ในประเทศไทยเป็นที่น่าจับตามอง

กองทัพภาคที่ 4 โดย กองกำลังเทพสตรี ไม่ได้นิ่งนอนใจในสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้าน โดยสั่งการให้ หน่วยเฉพาะกิจ ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ทั้งทางมาเลเซีย และเมียนมาเพิ่มความเข้มงวดในการระมัดระวัง และไม่ให้ประมาทต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าว เนื่องเส้นทางจากประเทศเมียนมา ซึ่งหากมีการลักลอบเข้ามาอาจจะมีการนำเชื้อดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่ชั้นในของจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร ต่อเนื่องไปถึงพื้นที่ชั้นในของจังหวัดอื่น ๆ หากผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองหลุดไปได้จากจังหวัดระนอง-ชุมพร

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ได้ยกระดับการปฏิบัติงานทั้งด้านยุทธการ และ การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน ทั้งในส่วนของจุดตรวจทหารที่กินพื้นที่ทั้งจังหวัดระนองและจังหวัดชุมพร ให้เพิ่มความเข้มงวดสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ให้มีการตรวจอบรายละเอียดเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งในจุดตรวจทหารแต่ละจุดยังมีจุดคัดกรองโควิดอยู่ประจำจุดหากจุผ่านเข้ามาในพื้นที่ต้องการผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมสั่งกำชับกำลังพลในชุดปฏิบัติการต่าง ๆที่ต้องออกลาดตระในพื้นที่ช่องทางธรรมชาติ ให้เพิ่มความถี่ในการออกลาดตระเวน เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจตราผู้ลักลอบเพราะผู้ลักลอบเข้าเมืองอาจจะมีเชื้อดังกล่าวสามารถติดกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หากพบผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองข้ามแดนมาให้ทำการขั้นตอนในการแจ้งประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆในเรื่องการควบคุมโรคเข้ามาปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อความปลอดภัย

ที่สำคัญกำลังพลที่ออกปฏิบัติหน้าที่ต้องใช้งานประชาสัมพันธ์กับชาวบ้านควบคู่ไปกับการปฏิบัติทางยุทธวิธีเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการช่วยกันระวังบุคคลแปลกหน้าที่จะนำพาเชื้อโรคเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ถึงแม้การแพร่ระบาดจะถูกตรวจพบในประเทศมาเลเซีย ก็ตาม แต่เพื่อไม่เป็นการประมาท จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง ทุกช่องทาง ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน แม้ในปัจจุบันจะยังไม่ได้รับรายงานการติดเชื้อ โควิดสายพันธุ์ใหม่ในฝั่งเมียนมาก็ตาม