เครือข่าย 'People Go Network' ชี้ทางออก 'ม.112' ดึงนักการเมืองทันเกมมวลชน

เครือข่าย 'People Go Network' ชี้ทางออก 'ม.112' ดึงนักการเมืองทันเกมมวลชน

เครือข่าย People Go Network แนะทางออกของประเด็น "มาตรา 112" คือดึงนักการเมืองให้ทันเกมมวลชน พร้อมจี้แก้ไขมาตรานี้

วันที่ 29 เม.ย. 64 เครือข่าย People Go Network จัดกิจกรรมเสวนาหน้าศาล จากศาลอาญารัชดาในหัวข้อ "มาตรา 112 กับการรณรงค์ยกเลิก" ร่วมสนทนาโดยนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จาก iLaw และ รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 ที่เคยรณรงค์เข้าชื่อประชาชนเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ช่วงปี 2554

โดยกลุ่ม People Go Network จัดงานเสวนาชุด "เสวนาหน้าศาล" ขึ้นทุกวัน ในเวลา 19.00 น. หลังเสร็จกิจกรรม ยืน หยุด ขัง ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่หน้าศาลอาญาระหว่างเวลา 17.30-18.42 โดยนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ จากเครือข่าย People Go Network ทำกิจกรรมอดอาหารที่หน้าศาลมาตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2564 และการเสวนาในวันนี้จัดขึ้นเป็นวันที่ 4 แล้ว

พวงทอง กล่าวว่า เราเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของผู้ถูกกล่าวหาที่ยังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ในขณะที่เราคำนึงว่าการกระทำของพวกเขามีข้อเท็จจริงรองรับไหม สิ่งที่คนในกระบวนการยุติธรรมคิดกับคดีมาตรา 112 มันต่างไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้สนข้อเท็จจริง พวกเขาสนแค่ว่าสิ่งที่คนเหล่านี้ทำกระทบต่อระบบระบอบที่เขาสมาทานตัวว่าเป็นผู้พิทักษ์หรือไม่ และคงไม่แปลกที่เมื่อกฎหมายมาตรา 112 อยู่ในหมวดความมั่นคง

"เมื่อมีคนวิจารณ์สถาบันฯก็ถือว่าไปกระทบกับความมั่นคงเมื่อเป็นเช่นนั้นก็คงไม่ต้องสนใจว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่"

161978908256
- รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ -

พวงทอง กล่าวต่อว่า ในทรรศนะของรัฐ การวิจารณ์สถาบันถือสิ่งที่อันตรายที่สุด การฆ่าคนอาจทำให้คนคนหนึ่งหรือคนหลักสิบคนตาย แต่การวิจารณ์สถาบันที่รัฐมองว่าเป็นอาชญากรรมทางความคิด อันตรายกว่าเพราะคุณอาจเปลี่ยนคนหลักร้อยหลักพันได้ ระบอบจะอยู่ไม่ได้หากคนเลิกจงรักภักดี เราจึงได้เห็นสถานะพิเศษของมาตรา 112

"ขณะที่กฎหมายอื่นคุณจะเป็นเป็นผู้บริสุทธิก่อนถูกพิสูจน์ว่ามีความผิด แต่กับมาตรา 112 แค่พูดออกมาหรือแสดงออกมามันก็ผิดไปก่อนแล้ว จึงไม่แปลกที่เขาจะกำหนดเงื่อนไขประกันตัวในลักษณะว่าห้ามทำอีก ก็เพราะเขาตัดสินไปแล้วว่าสิ่งที่ทำมันผิด"

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาหรือความเป็นไปได้ในการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 พวงทองระบุว่า ก่อนหน้านี้ ครก.112 เคยมีความพยายามที่จะเสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และก็สามารถรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนร่างกฎหมายได้มากกว่า 20,000 คน แต่ปรากฎว่าสภาก็ปัดตกทันที แต่ถึงกระนั้นกลไกสภาก็ยังเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นช่องทางเดียวที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโดยสันติ สิ่งหนึ่งที่จะพอทำได้คือต้องสนับสนุนพรรคการเมืองและนักการเมืองที่กล้าที่จะพูดหรือผลักดันการแก้ปัญหา

ขณะที่ยิ่งชีพ จาก iLaw ระบุว่า การดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เท่าที่ติดตามเกิดขึ้น 3 ระลอกใหญ่ๆ ระลอกแรกคือช่วงการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2552-2553 ระลอกที่สองคือช่วงคสช.ยึดอำนาจ และระลอกที่สามคือหลังเดือนพ.ย.ปี 63 หลังคุณประยุทธ์แถลงว่าจะใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตรา

161978911318
- ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ -

"เรื่องการประกันตัวคดีม.112 เท่าที่เห็นมา คนที่ได้ประกันตัวมักจะต้องยอมแลกกับอะไรบางอย่าง เช่น หมอลำแบงค์ ยอมรับเงื่อนไขของศาลทุกอย่างจะไม่ร่วมชุมนุม ไม่แสดงออกทางการเมืองหรือร่วมชุมนุมที่ทำให้สถาบันเสียหาย ซึ่งเชื่อว่าหากศาลไม่ตั้งเงื่อนไขแบบนี้ เราก็อาจเห็นหมอลำแบงค์มาร้องหมอลำวันนี้ กรณีของพี่สมยศและไผ่ ก็ยอมรับเงื่อนไขว่าจะไม่แสดงออกในลักษณะที่ทำให้สถาบันเสื่อมเสีย แต่ยังชุมนุมวิจารณ์รัฐบาลได้ สิ่งนี้ทำให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมันบีบให้คนต้องยอมทิ้งอะไรบางอย่างไปเพื่อแลกกับอิสรภาพ หมอลำแบงค์ต้องยอมแพ้ทางการเมือง ส่วนพี่สมยศกับไผ่ ต้องยอมรับเงื่อนไขบางอย่าง แต่ก็น่าสนใจเหมือนกันว่ากรณีของฟ้าที่ก็แถลงว่ายอมรับเงื่อนไขแล้วแต่กลับไม่ได้รับการประกันตัว" ยิ่งชีพกล่าว

ยิ่งชีพ เสริมว่า ปัญหาของมาตรา 112 เชื่อว่าถึงวันนี้ก็คงเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปแล้ว ซึ่งส.ส.พรรคก้าวไกลเคยเสนอแก้ไขมาตรา 112 พร้อมกับทำข้อเสนอเพื่อการปรับปรุงกฎหมายหมิ่นประมาทใหม่ทั้งระบบ แต่ข้อเสนอนี้สภามีมติไม่รับไปแล้วโดยระบุว่าการแก้ไขมาตรา 112 ถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาตามระบบอย่างเป็นทางการถูกปิดทางไปแล้ว คงคล้ายๆ สมัยที่ครก.112 เคยเข้าชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 แล้วประธานสภาปัดตกโดยบอกว่าเป็นกฎหมายหมวดพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่กฎหมายหมวดสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนมีสิทธิแก้ การปัดตกทั้งสองรอบเป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะมาตรา 112 มันไม่ใช่เค่เรื่องกฎหมายแต่มันมีมิติทางการเมือง ซึ่งการจะแก้ไขกฎหมายแบบนี้พลวัตในสังคมเป็นปัจจัยสำคัญ ทุกวันนี้คนที่อยู่ในจักรวาลคู่ขนานเขาอาจแค่ติดใจท่าทีของนักปราศรัยอย่างเพนกวิ้น ผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ยิ่งชีพนับถือเองก็ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มราษฎรแต่เมื่อได้ฟังข้อเรียกร้องหรือประเด็นที่ มายด์ ภัสราวลี ปราศรัยเขาก็ตั้งคำถามว่ามันผิดได้อย่างไร

ยิ่งชีพทิ้งท้ายว่า ท่าทีของคนรู้จักที่เขายกมาทำให้เห็นว่า หากเราสามารถหาช่องทางสื่อสารหรือรูปแบบการสื่อสารที่ดี การพูดคุยกับคนในโลกคู่ขนานก็อาจยังพอเป็นไปได้ และอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะท้ายที่สุดหากพลวัตของสังคมเปลี่ยนไป ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็จำเป็นต้องปรับตามและไม่อาจฝืนกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงได้