ลดลง (26 เม.ย.64)

ลดลง (26 เม.ย.64)

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี

คาดดัชนีฯ ลดลง แนวรับ 1537 / 1530 จุด แนวต้าน 1563 / 1570 จุด แนะนำ เก็งกำไร IMH GJS TM สัญญาณทางเทคนิคจะเกิด Sell Signal หากหลุดแนวรับ 1550 จุด ปัจจัยลบ คือ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศยังคงปรับสูงขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายจังหวัดเริ่มประกาศมาตรการล็อกดาวน์ เช่น กทม. ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้มีความเสี่ยงเชิงลบ หากไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ภายในเร็ว ๆ นี้ แม้การส่งออกปีนี้จะดีกว่าคาดการณ์ (ปรับขึ้นเป็น 4-7%) ปัจจัยบวก คือ เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัวดีต่อเนื่อง จากรายงานภาคการผลิตและภาคบริการเดือน เม.ย. เบื้องต้นที่สูงกว่าคาด

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

- จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้บางจังหวัดเริ่มออกมาตรการล็อกดาวน์ นำโดยกทม. ประกาศล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. เป็นเวลา 14 วัน โดยการสั่งปิด 31 พื้นที่เสี่ยง และสวมหน้ากากในที่สาธารณะ (-หุ้นอิงการบริโภคในประเทศ)

+ ภาคการค้าระหว่างประเทศของไทย มีสัญญาณฟื้นตัวดีโดยส่งออกเดือน มี.ค. +8.47%YoY หลังเศรษฐกิจคู่ค้าเติบโตสูงกว่าคาด (+หุ้นกลุ่มส่งออก ชิ้นอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ KCE HANA DELTA AH SAT)

+ รัฐบาลส่งสัญญาณใช้เม็ดเงินที่เหลือ 3.8 แสนล้านบาท เพื่อเยียวยาและกระตุ้นการลงทุน (+หุ้น Domestic Plays)

+ เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัวดี อิงรายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย. ของประเทศกลุ่ม G-7 สูงกว่าคาด (+Cyclical Play )

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

บลูมเบิร์กจัดงาน Green Summit วันที่ 26 – 27 เม.ย. เกี่ยวกับ Climate Change / IRAN-คณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนิวเคลียร์ตามมติ / USA-รายงานสินค้าคงทนเดือนมี.ค. คาด +2.5% MoM (Vs เดือน ก.พ. -1.1% MoM), Dallas Fed Mfg Index เดือน เม.ย. คาด 26 (Vs เดือน มี.ค.28.9) / Germany-รายงาน Ifo Business Climate เดือน เม.ย. คาด 97.8 (Vs เดือน มี.ค. 96.6), Expectation คาด 101.3 (Vs เดือน มี.ค. 100.4)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยดิ่งต่อเนื่อง: หุ้นไทยยืนในแดนลบตลอดการซื้อขายกรอบ 1550-1564 จุด ก่อนมาปิดที่ 1553.59 จุด -14.62 จุด -0.93% วอลุ่ม 8.61 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มธุรกิจการเกษตร -3.6% เงินทุนและหลักทรัพย์ -2.54% ธนาคาร -2.26% หุ้นบวก >4%BCH CHG TM BEC IMH SAAM CGH GJS KK FTE GBX TEAMG PRAPAT INSET PHOL หุ้นลบ >4% STA MINT BFIT KTC SK CHEWA ACG ML ABM AKP SIS

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: รายงานภาคการผลิตเดือน เม.ย. ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และรายงานผลกำไรที่ดีกว่าคาดของกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJ +0.67% (+227.59 จุด) S&P500 +1.09% Nasdaq +1.44% (ทั้งสัปดาห์ DJ -0.46% WoW S&P500 -0.13% WoW Nasdaq -0.25% WoW) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ DAX -0.27% CAC -0.15% วิตกยอดติดเชื้อ COVID-
19 พุ่งขึ้นในอินเดียและญี่ปุ่น แม้ตัวเลขภาคการผลิตและบริการเดือน เม.ย. ปรับสูงขึ้น (ทั้งสัปดาห์ DAX -1.17% WoW CAC -0.46% WoW FTSE -1.15% WoW)

+/- น้ำมันดิบปิดบวก แต่ทองปิดลบ: การรายงานข้อมูลภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน เม.ย. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐฯ ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันดิบโลก WTI + 71 เซนต์ ปิดที่ USD62.14/บาร์เรล Brent +71 เซนต์ ปิดที่ USD66.11/บาร์เรล (ทั้งสัปดาห์ WTI -1.7% WoW Brent -1% WoW ) แต่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ -USD4.20 ปิดที่ USD1,777.80/ออนซ์ (สัปดาห์นี้ลดลง -0.1% WoW)

ประเด็นสำคัญ

- Fund Flow (19–23 เม.ย. 2021): นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นเอเชีย 6 ชาติ ไม่รวมญี่ปุ่น –USD1,696mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +USD182mn) ส่วนตลาดหุ้นไทยกลับมามีแรงขายสุทธิ –USD278mn หลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +USD9mn)

- ศบค.: รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อวันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย. มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ +2,438 ราย (Vs วันเสาร์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ +2,839 ราย) หลัก ๆ มาจากการติดเชื้อในประเทศ +2,151 ราย (จากวันก่อนหน้า 2,523 ราย)

- ไทย-GDP: KTB ปรับลดประมาณการการ 2021E GDP เหลือ 1.5-3.0% ขึ้นกับ 3 ปัจจัย 1) ความสามารถในการจัดการโรคระบาดกลายพันธุ์ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ 2) แจกกระจายวัคซีนได้ตามแผน 3) รัฐอัดฉีดเม็ดเงินพยุงเศรษฐกิจอีกกว่า 2 แสนล้านบาท

+ กทม.: ออกคำสั่งปิด 31 สถานที่เสี่ยง และต้องสวมมาสก์ 100% ฝ่าฝืนมีโทษ มีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 เม.ย. เป็นเวลา 14 วัน หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

+ G-7: รายงานภาคการผลิตและภาคบริการโลกเดือน เม.ย. ดีกว่าคาด (ยกเว้นภาคบริการญี่ปุ่น) สะท้อนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกและหนุนภาคการค้าระหว่างประเทศ (+Cyclical Plays)

+ ไทย-ส่งออก: ดุลการค้าเดือน มี.ค. เกินดุล USD710.8mn (Vs BB Consensus ที่ +USD825mn) แต่ส่งออกเติบโตสูงกว่าคาดเป็น +8.47% YoY Vs 2M21

+2.27% YoY หรือ +11.97% YoY หากไม่นับรวมน้ำมัน ทองคำ อาวุธ Vs 2M21 +7.61% YoY

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SCGP GLOBAL IMH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: IMH GJS TM

Derivatives: ถือสถานะ Short S50M21 เก็งกำไรไปก่อน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)