รองผู้ว่าฯ นราธิวาส ประชุมหาทางออก 'โควิด-19' มีแนวโน้มระบาดหนัก

รองผู้ว่าฯ นราธิวาส ประชุม 13 อำเภอ หาทางออก "โควิด-19" จัดเตรียมหาสถานที่ในการกักตัว-คัดกรองบุคคล มีแนวโน้มระบาดหนัก

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 64 ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลาง จ.นราธิวาส นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในที่ประชุมการวางมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี นพ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว จำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมประชุม

ซึ่งสาระในที่ประชุมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จัดเตรียมหาสถานที่ในการกักตัวและคัดกรองบุคคล เนื่องจากในช่วงวันที่ 12 หรือ 13 เม.ย. 64 ที่จะถึงนี้ เป็นเทศกาลถือศีลอด หรือ เดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิม ที่เชื่อว่าจะมีคนไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งบุคคลต่างด้าว จะลักลอบเดินทางข้ามแดนมาในช่วงเทศกาลดังกล่าว ตามพื้นที่อำเภอแนวชายแดน ส่วนกรณีของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อในเรือนจำนราธิวาส เชื่อว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้อยู่ในวงจำกัด เพียงแต่ต้องมีการคัดกรองอย่างละเอียด สำหรับผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปใช้ชีวิตในสังคม รวมทั้งต้องคัดกรองอย่างละเอียดสำหรับผู้ต้องขังใหม่ ที่จะต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ

นอกจากนี้ นายไพโรจน์ ได้ชี้แนะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่ละอำเภอ พิจารณาจัดสถานที่คัดกรองตามโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ที่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงปิดเทอมที่จะสามารถขอใช้สถานที่ได้ หากมีสถานการณ์ไม่คาดคิดมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่สาหัสสากันเราสามารถใช้โรงเรียนแต่ละแห่งรองรับได้

ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ ได้เสนอแนะให้ใช้เรือนจำ เป็นสถานที่กักกันตัวบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง รวมทั้งบุคคลชาวไทยที่ลักลอบเดินทางเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อง่ายต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยเฉพาะบุคคลต่างด้าวซึ่งอยู่ในช่วงรอการพลัดดัน ที่ต้องใช้เวลาอันยาวนานในการส่งตัวกลับประเทศ

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในเรือนจำนราธิวาส นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ขอสนับสนุนรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน จำนวน 1 คัน มาทำการเก็บตัวอย่างของเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขัง ในการแยกแยะบุคคลที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อมาควบคุมออกจากกัน ควบคู่กับการจัดเตรียมสถานที่โรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ ที่ใช้แดน 6 ซึ่งเป็นสถานพยาบาล เพื่อรองรับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ ควบคู่กับใช้รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษพระราชทาน ไปทำการเก็บตัวอย่างกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชครินทร์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีทั้งความเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยต่ำและเสี่ยงต่อการสัมผัสผู้ป่วยสูงที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ที่ถูกส่งตัวมารักษายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็น 1 โรงพยาบาลที่ทางจังหวัดนราธิวาส ใช้เป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ในการสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากร ที่ยังไม่ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดเพิ่มหรือไม่ โดยมีตัวเลขยืนยันว่าในเรือนจำมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 รวม 120 คน ทั้งผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่เรือนจำและพยาบาลในเรือนจำ ส่วนภายนอกมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 7 คน เป็นชาวเวียดนามที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองนราธิวาส ที่ได้ลักลอบข้ามแดนจากประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลระแงะอยู่ในขณะนี้

นอกจากนี้แล้วสำหับกลุ่มเยาวชนและองค์กรทั้ง 15 แห่ง ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 200 คน ได้เดินทางมารายงานตัวและคัดกรองโรคกับเจ้าหน้าที่ ที่ใช้อาคารสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.นราธิวาส แล้ว โดยภาพรวมทุกคนมีอาการปกติและอนุญาตให้ไปทำการกักตัวเองที่บ้านพัก และในวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่จะถึงนี้ ให้มารายงานตัวและคัดกรองกับเจ้าหน้าที่ที่นัดหมายอย่างละเอียดอีกครั้ง