กูรูคาด 'เฟด' ไม่ลดวงเงิน QE เสี่ยงตลาดหุ้นเพิ่มความกังวล
นักวิเคราะห์ คาดการณ์ “เจอโรม พาวเวล” จะหาทางผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในตลาด ท่ามกลางนักลงุทุนลุ้น บอนด์ยีลด์ดีดตัวขึ้น อาจผลักดันให้เฟดยุติใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน
นายเอียน เชปเพิร์ดสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Pantheon Macroeconomics กล่าวว่า เขาจะรู้สึกประหลาดใจ หากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเข้าสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้
นายเชปเพิร์ดสันเชื่อว่า นายพาวเวลจะหาทางผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในตลาด แต่เขาจะไม่พูดว่าเฟดจะลดวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากหากนายพาวเวลกล่าวเช่นนั้น ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นโดยทันที ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมตลาดหุ้นที่กำลังมีความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
นอกจากนี้ นายเชปเพิร์ดสันกล่าวว่า การที่นายพาวเวลจะยังไม่ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในวันนี้ เป็นสิ่งที่เหมาะสม เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีความไม่แน่นอน และเป็นเพียงการคาดการณ์ของตลาดเท่านั้น
ธนาคารกลางสหรัฐ จะจัดการประชุมนโยบายการเงินเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ และจะประกาศผลการประชุมในคืนนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย
ตลาดจับตาการแถลงข่าวของนายพาวเวล หลังการประชุม เพื่อจับสัญญาณของเฟดเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.66% ในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 13 เดือน หลังจากอยู่ที่ระดับเพียง 0.9% ในช่วงต้นปีนี้
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนกำลังกังวลว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกราว 2-3 ปี
ก่อนหน้านี้ เฟดเคยส่งสัญญาณชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดวงเงิน QE ในปี 2556 ซึ่งส่งผลให้เฟดลดการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความตื่นตระหนกจนทรุดตัวลงอย่างหนักในปีดังกล่าว