"กมธ.ประชามติ" ปรับเนื้อหาแล้วเสร็จ นัดสมาชิกรัฐสภา แปรญญัตติ 4-5มีนาคม

"กมธ.ประชามติ" ปรับเนื้อหาแล้วเสร็จ นัดสมาชิกรัฐสภา แปรญญัตติ 4-5มีนาคม

"กมธ.ประชามติไ ปรับเนื้อหาร่างกฎหมายประชามติเสร็จแล้ว รอพิจารณาคำแปรญัตติ พบเนื้อหาวางหลักการให้กว้างขวาง-ขยายประชามตินอกราชอาณาจักร-รับรองสิทธิประชาชนรณรงค์ประชามติได้

        ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.... รัฐสภา ซึ่งมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. เป็นประธานกมธ.ฯ  ได้พิจารณาเนื้อหาสาระแล้วเสร็จทั้งฉบับในเบื้องต้น และในวันที่ 4 - 5 มีนาคม ได้นัดสมาชิกรัฐสภา ที่เสนอคำแปรญัตติให้ชี้แจงรายละเอียด 
        สำหรับสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ประชามติ ที่กมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ 66 มาตรา นั้นมีประเด็นที่ปรับปรุง อาทิ เพิ่มเติมการควบคุม ดูแลการออกเสียงประชามติ นอกจากต้องสุจริต เที่ยงธรรม  กมธ.ฯ เพิ่มคำว่า เสรี เสมอภาค เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
        ให้สิทธิประชาชน พรรคการเมือง องค์กรเอกชน และกลุ่มต่าง ๆในสังคม มีสิทธิและเสรีภาพ จัดกิจกรรมรณรงค์ออกเสียงยประชามติ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด กรณีที่หน่วยงานรัฐจัดกิจกรรมเพื่อให้ข้อมูลต้องเปิดโอกาสให้ประชาชน พรรคการเมือง องค์กรเอกชน และกลุ่มต่างๆ ในสังคมเข้าร่วมอย่างเสรี เท่าเทียม ซึ่งเป็นประเด็นที่กมธ. เพิ่มเติมขึ้นใหม่ 
         
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวิธีออกเสียงลงคะแนน โดยยตรงและลับ  กมธ. ได้เพิ่มเนื้อหา เปิดช่องให้การออกเสียง ทำได้ ทั้งจากบัตรออกเสียง หรือ ลงคะแนนทางไปรษณีย์ หรือ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่น  ภายใต้เงื่อนไขว่าวิธีนั้นต้องป้องกันการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนเข้าถึงโดยสะดวก ทั้งนี้ได้เปิดช่องให้ใช้วิธีออกเสียงได้หลายรูปแบบในเขตออกเสียงเดียวกันก็ได้ สำหรับการออกเสียง กมธ. ได้เพิ่มสิทธิให้กาช่องไม่แสดงความคิดเห็น หรือ โหวตโน ได้ จากเดิมที่ระบุให้ออกเสียงเพื่อแสดงความคิดเห็นเท่านั้น ส่วนหลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติที่ถือว่าผ่านประชามติ กมธ. แก้ไข ให้ใช้เกณฑ์ผู้มีสิทธิออกเสียง จำนวน เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงด้วย
        ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการออกเสียงประชามติ กมธ. ปรับให้สามารถออกเสียงประชามติผ่านเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถีงการรายงานผล ได้เพิ่มเติมให้รายงานผลการนับคะแนนผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ด้วย จากเดิมที่ให้ใช้การออกเสียงผ่านบัตรลงคะแนนเท่านั้น นอกจากนั้นได้ปรับให้มีการออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรได้ ที่ สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ หรือสถานที่ที่กำหนด ทั้งนี้ได้กำหนดให้นับคะแนนให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชั่วโมงหลังการปิดลงคะแนนในวันออกเสียงในราชอาณาจักร
        ขณะที่หมวดว่าด้วยความผิดและบทกำหนดโทษ กมธ. ได้เพิ่มเติมพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นความผิด เพิ่มเติม ในมาตรา 60 (4) คือ  การเปิด ทำลาย เปลี่ยนภาพ  ทำให้เอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการออกเสียงประชามติ สูญหาย โดยไม่มีอำนาจโดยชอบตามกฎหมาย  ตั้งแต่เวลาเปิดและปิดหีบบัตรออกเสียง ที่ตั้งไว้เพื่อการลงคะแนนออกเสียงหรือภายหลังที่ปิดหีบบัตรออกเสียง เพื่อรักษาไว้เพื่อการออกเสียงเสร็จสิ้นแล้ว จากเดิมที่กำหนดพฤติกรรมเฉพาะที่เกี่ยวกับ หีบบัตรออกเสียงหรือบัครออกเสียงเท่านั้น.