จอห์นสันแอนด์จอห์นสันวัคซีนโควิด‘ฉีดเข็มเดียว’

สหรัฐที่ถูกโควิด-19 เล่นงานอย่างหนัก อนุมัติให้ใช้วัคซีนเข็มเดียวของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้ในกรณีฉุกเฉิน ยิ่งเพิ่มความหวังในการยุติวิกฤติโรคระบาดครั้งร้ายแรงให้กับประเทศโควิดระบาดหนักที่สุดในโลก

เมื่อวันเสาร์ (27 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้ในกรณีฉุกเฉิน โดยให้เหตุผลว่าวัคซีนชนิดเข็มเดียวตัวนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19 รวมถึงป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ดีใจกับการอนุมัติวัคซีนตัวที่ 3 ของประเทศ แต่เตือนว่า ศึกนี้ยังอีกนานกว่าจะจบ

“นี่เป็นข่าวน่าตื่นเต้นสำหรับชาวอเมริกันทุกคน เป็นพัฒนาการที่สร้างขวัญกำลังใจให้กับความพยายามยุติวิกฤติของเรา แต่ชาวอเมริกันจะปล่อยให้การ์ดตกหรือทึกทักเอาว่าเราชนะแล้วไม่ได้” ประธานาธิบดีระบุ

ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านชุดมาตรการ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงการจ่ายเงิน 1,400 ดอลลาร์ให้กับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ และอีกหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับแจกจ่ายวัคซีน ช่วยโรงเรียนเปิดเรียน และเป็นเงินทุนสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่น ขณะนี้ร่างเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ถือเป็นชุดมาตรการใหญ่สุดอันดับ 2 เท่าที่สหรัฐเคยมี สะท้อนภาพความพยายามครั้งมโหฬารที่จำเป็นต้องทำเพื่อแก้ไขวิกฤตินานัปการ ผลพวงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปกว่า 5 แสนคน ในรอบ 24 ชั่วโมงของวันเสาร์ (27 ก.พ.) เสียชีวิตเพิ่มอีก 1,849 คน

เมื่อเอฟดีเออนุมัติ รัฐบาลกลางก็เริ่มแผนกระจายวัคซีนเจแอนด์เจจำนวนเกือบ 4 ล้านโดส ไปยังรัฐ ร้านยา และศูนย์สุขภาพชุมชนทั่วประเทศในสัปดาห์หน้า

ข้อดีของวัคซีนเจแอนด์เจเมื่อเทียบกับไฟเซอร์และโมเดอร์นาคือ ฉีดเพียงเข็มเดียว คนไข้ไม่ต้องกลับมาฉีดเข็มสอง และสามารถเก็บในตู้เย็นธรรมดาได้นานหลายเดือน

แนนซี เมสซันเนียร์ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิคุ้มกันและโรคทางเดินหายใจ ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (ซีดีซี) เผยกับวารสารสมาคมแพทย์อเมริกันเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) ว่า วัคซีนเจแอนด์เจทำให้การปฏิบัติการง่ายขึ้นในหลายๆ บริบท

ด้านเจแอนด์เจแถลงว่า เบื้องต้นปริมาณวัคซีนยังมีจำกัด คาดว่าจะส่งมอบได้ 20 ล้านโดสภายในสิ้นเดือน มี.ค. ริชาร์ด เนตเทิลส์ รองประธานเจแอนด์เจ ฝ่ายกิจการแพทย์สหรัฐ กล่าวกับสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันอังคาร (23 ก.พ.) ว่า เจแอนด์เจทำข้อตกลงกับรัฐบาล จัดหาวัคซีน 100 ล้านโดสให้ภายในสิ้น มิ.ย. ขณะที่ทางการสหรัฐกล่าวว่า กำลังร่วมมือกับเจแอนด์เจเพิ่มซัพพลายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่่ผ่านมา หน่วยงานสาธารณสุขสหรัฐผลักดันให้คนอเมริกันฉีดวัคซีนโดยเร็ว ด้วยทางการกำลังกังวลทุกขณะเรื่องไวรัสกลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ B.1.351 ที่ลดทอนประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งที่วางขายแล้วและที่กำลังพัฒนา

เมื่อวันศุกร์ โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) เตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐที่ลดลงตั้งแต่เดือน ม.ค.อาจไม่ลดลงอีกถ้าโควิดสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาด

สำหรับประสิทธิผลของวัคซีนตัวใหม่ เจแอนด์เจแถลงว่า แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ในภาพรวมได้ผล 66% ในสหรัฐได้ผล 72% ละตินอเมริกา 66% ในแอฟริกาใต้ที่สายพันธุ์B.1.351 ระบาดอย่างรวดเร็ว ได้ผล57% แต่เอกสารของเอฟดีเอระบุว่า ในแอฟริกาใต้หลังฉีดวัคซีนแล้ว 1 เดือนได้ผล 64% เจแอนด์เจกล่าวด้วยว่า วัคซีนป้องกันการเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตได้ 100%

วัคซีนของไฟเซอร์นั้นมีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ได้ 95% ส่วนโมเดอร์นาราว 94% แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชี้ว่า จะนำวัคซีนเข็มเดียวอย่างเจแอนด์เจไปเทียบกับวัคซีน 2 เข็มไม่ได้ อีกทั้งการทดลองของเจแอนด์เจเกิดขึ้นในช่วงที่มีการติดโควิดสายพันธุ์ใหม่มากขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ เอฟดีเออนุญาตให้ใช้วัคซีนเจแอนด์เจกับประชาชนอายุตั้งแต่ 18 ปี แต่เป็นการให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น การอนุมัติเต็มรูปแบบต้องใช้ข้อมูลมากกว่านี้ซึ่งเจแอนด์เจก็ไม่ต่างจากไฟเซอร์และโมเดอร์นา ที่ยื่นขออนุมัติโดยใช้ข้อมูลความปลอดภัยเพียง 2 เดือน ถ้าจะอนุมัติเต็มรูปแบบต้องใช้ข้อมูล 6 เดือน

ตัวอย่างเช่น เดือน มี.ค.ปีก่อนเอฟดีเอเคยอนุมัติให้ใช้ไฮดรอกซีคลอโรควินรักษาโควิด-19 ได้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ยกเลิกไปในเดือน มิ.ย. หลังได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไม่มีหลักฐานว่ามีประโยชน์กับผู้ป่วย