ใช้ข่าวดีวัคซีน ดึงความเชื่อมั่น

ใช้ข่าวดีวัคซีน ดึงความเชื่อมั่น

"วัคซีนโควิด" ล็อตแรกทั้งจากซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า เดินทางมาถึงไทยแล้วรวมทั้งหมด 317,000 โดส แม้จะล่าช้ากว่าหลายประเทศ แต่นับเป็นข่าวดีในวิกฤติโควิด-19 ซึ่งจะเป็นหนึ่งปัจจัยที่จะดึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยวกลับมาได้

อีกหนึ่งประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.พ. 2564 ณ เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายใต้โครงการ “วัคซีนโควิด-19 คืนรอยยิ้ม ประเทศไทย” ได้มีพิธีต้อนรับวัคซีนจาก บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด 200,000 โดส น้ำหนัก 2.6 ตัน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธี ยังมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พร้อมด้วยอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และสื่อมวลชนไทยเทศจำนวนมาก

วัคซีนซิโนแวค ขนส่งโดยเที่ยวบินขนส่งสินค้า TG 675 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพมหานคร ถึงสนามบินเวลา 10.00น. จากนั้นได้นำตู้ควบคุมอุณหภูมิบรรจุวัคซีนออกจากเครื่อง ก่อนที่จะลำเลียงขึ้นรถขนส่งไปจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 องค์การเภสัชกรรม ที่คลังศรีเพชร DKSH ของบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ในวันเดียวกันจะมีวัคซีนจาก บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด 117,000 โดส เดินทางมาถึงเช่นกัน

ประเทศไทยวันนี้จึงมีวัคซีนล็อตแรกแล้ว 317,000 โดส แม้จะล่าช้ากว่าหลายๆ ประเทศ แต่นับเป็นข่าวดีนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศนานกว่า 12 เดือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ย้ำว่าวัคซีนไม่ว่าล็อตไหนก็ตามเป็นวัคซีนของคนไทยทั้งประเทศ เป็นความภาคภูมิใจว่าต่อไปในล็อตสองหรือล็อตอื่นๆ ต่อไปจะจัดหาเพิ่มเติมอย่างเพียงพอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้คนทั้งประเทศได้ ซึ่งวัคซีนนี้ต้องใช้เวลาเตรียมการระยะหนึ่ง ส่วนใครฉีดก่อนหรือหลังนั้น คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณา ซึ่งทำงานเป็นระบบ

เราเชื่อว่ารัฐบาลจะจัดหาได้อย่างเพียงพอ และเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีว่าวัคซีนคือของคนไทยทั้งประเทศ คนไทยจึงต้องให้ความร่วมมือในทุกๆ ด้าน รวมทั้งช่วยต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิดต่อไปโดยไม่ประมาท จนกว่าการกระจายวัคซีนจะครอบคลุมไปทั่วประเทศ เชื่อว่าคงไม่นานเกินรอ เรายังเห็นว่าในวันที่วัคซีนมาถึงประเทศไทย จากนี้ไปรัฐบาลโดยผู้นำประเทศจะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจ เร่งอัดฉีดเม็ดเงินตามแผนกระตุ้นการใช้จ่ายและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการลงทุนอย่างเต็มตัว

ขณะเดียวกันต้องผ่อนมาตรการคลายล็อคในแต่ละเซคเตอร์ ประเด็นคือการผ่อนปรนตามความเร่งด่วนและความสำคัญ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เราเห็นว่ากลุ่มนักธุรกิจนักลงทุนต่างชาติ ยังมีนักท่องเที่ยว รวมถึงนักกีฬาที่ถือเป็นรายได้เข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ยิ่งโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ยังพึ่งพารายได้การท่องเที่ยวเป็นหลัก วัคซีนในล็อตแรกนี้อาจจะเน้นไปยังกลุ่มแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อจูงใจให้ต่างชาติเดินทางเข้ามาแบบไร้กังวล ส่วนการผ่อนปรน ต้องฉีดวัคซีนซ้ำ ต้องมีการกักตัวถึง 14 วัน หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข