GULF - ซื้อ

GULF - ซื้อ

ผลประกอบการ 4Q63: ดีกว่าที่เราคาดไว้ 10.3%

Event

กำไรจากธุรกิจหลักของ GULF ใน 4Q63 อยู่ที่ 1.24 พันล้านบาท (+84.9% YoY, -6.4% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 10.3% แต่เป็นไปตาม Bloomberg consensus เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของโครงการพลังงงานลม Borkum ต่ำเกินคาด นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้อีก 600 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (+98.1% YoY, +84.7% QoQ) บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผล 0.38 บาท/หุ้น (กำหนดขึ้น XD วันที่ 5 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 28 เมษายน 2564) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1.1%

lmpact

กำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น YoY เพราะรวมผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานลม Borkum กำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น YoY เพราะเป็นไตรมาสแรกที่รวมผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานลม Borkum เข้ามาในงบรวมของบริษัทเต็มไตรมาส ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะ i) ไม่มีเงินปันผลจาก Intouch Holding (INTUCH.BK/INTUCH TB)* และ SPCG (SPCG.BK/SPCG TB)* ii) ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น (ตามปัจจัยฤดูกาล และมีค่าที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อ Borkum) ทั้งนี้ รายได้ใน 4Q63 อยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท (+16.3% YoY, +18.2% QoQ) ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก i) การรวม Borkum เข้ามาในงบรวม และ ii) ยอดขายไฟฟ้า และไอน้ำให้ IU เพิ่มขึ้น (+5.6% YoY)

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q64 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

เราเชื่อว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 1Q64 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งจะทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะมีการรวม Borkum เข้ามาในงบรวม ในขณะที่ กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะมาจาก i) ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง และ ii) weighting factor ของ IPP เพิ่มขึ้น

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2564 ที่ 38.25 บาท โดยมองว่างบดุลที่แข็งแกร่ง (สัดส่วนหนี้มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 1.4x) ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการเข้าซื้อกิจการได้อีกมาก

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่