'วันวิชิต' ให้คะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก 8 เต็ม 10

วันที่ 17 ก.พ. ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ให้สัมภาษณ์ "กรุงเทพธุรกิจ" ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกว่า หากไม่นับเรื่องการประท้วงต้องยอมรับว่าเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกถือว่าดีกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2563 โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่ทำการบ้านมาค่อนข้างดี อาทิ การอภิปรายของนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่เหมือนวาทยากรคุมวงดนตรีให้พรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ใครจะอภิปรายในประเด็นใด ต้องถือว่าเป็นความกล้าหาญที่นำร่องเปิดโจทย์ให้กับรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะเป็นการเดิมพันของฝ่ายค้านที่มั่นใจในข้อมูลใหม่ของตนเอง

"ขณะที่การอภิปรายของพรรคก้าวไกลในประเด็นการแต่งตั้งโยกย้าย หรือความล่าช้าของคดีทายาทกระทิงแดง จากการอภิปรายของนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต้องถือว่าเป็นดาวเด่นเช่นกัน เพราะสามารถสะกดอารมณ์คนในรัฐสภาได้"ผศ.วันวิชิต ระบุ

ผศ.วันวิชิต กล่าวต่อว่า ส่วนการตอบคำถามของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีการสะกดอารมณ์ได้อย่างดี มีจังหวะนิ่งสุขุมมากขึ้น พร้อมทั้งมีการตอบโต้ในกรณีคนหนีคดีไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเป้ากลับ เพื่อตีเมืองข้ึนของฝ่ายตรงข้ามแทนการตอบเรื่องที่ฝ่ายค้านซักถาม แต่ก็เป็นชัยชนะของฝ่ายค้านที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้วิธีตอบโต้ลักษณะนี้แทน อย่างไรก็ตาม ต้องให้เครดิตกับทีมสต๊าฟของนายกฯ และรัฐมนตรี โดยเฉพาะประเด็นของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งยังไม่ถึงคิวถูกอภิปราย แต่นายศักดิ์สยามรีบชี้แจงเรียกได้ว่าถามมาห้า แต่ตอบสิบไปแล้ว ทำให้ฝ่ายค้านต้องปรับแทคติกหาข้อมูลให้แตกต่างกับประเด็นที่นายศักดิ์สยามได้ชี้แจงไปแล้ว ไม่นั้นจะถูก ส.ส.พรรคภูมิใจไทยประท้วงฝ่ายค้านได้ว่ามีเนื้อหาวกวนและซ้ำซาก

"บรรยากาศการอุ่นเครื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรก หากตัดเรื่องการประท้วงต่างๆ โดยดูที่เนื้อหาต้องให้คะแนนที่ 8 เต็ม 10 คะแนน โดยส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่ควบคุมการประชุมได้อย่างดีที่มีประสบการณ์และความแม่นยำในข้อบังคับ ทำให้การอภิปรายอีก 3 วันจากนี้จะมีความเข้มเข้มของบรรยากาศอภิปรายมากขึ้นแน่นอน"ผศ.วันวิชิต กล่าว

ผศ.วันวิชิต กล่าวด้วยว่า สำหรับการทำหน้าที่ฝ่ายค้านจากนี้ต้องมีข้อมูลที่แม่นยำและเที่ยงตรง หากเนื้อหาที่อภิปรายไปถึงรัฐมนตรีโดยที่รัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจน แต่กลับใช้วิธีเบี่ยงเบนประเด็นจากฝ่ายค้าน ก็ถือเป็นชัยชนะของฝ่ายค้านได้อย่างหนึ่ง ดังนั้นผู้ที่ติดตามทางการเมืองจะประเมินได้ว่ารัฐมนตรีคนไหนทำการบ้านหรือไม่ เพราะหลายๆ ครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาได้ แต่ใช้ความรู้สึกมาตอบเป็นส่วนใหญ่ ประชาชนจึงคาดหวังการยกระดับในเวทึปภิปรายไม่ไว้วางใจให้มีคุณภาพมากกว่าหารใช้คำไม่สุภาพมาตอบโต้กัน

"ที่สำคัญทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลไม่ควรใช้เวทีนี้มาล้างแค้นกันจากความขัดแย้งในห้องประชุมกรรมาธิการระหว่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หรือนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เพราะประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย โดยขอให้ใช้เนื้อหามาสู้กันดีกว่า"ผศ.วันวิชิต กล่าว