ซีอีโอ‘โบอิง’ชี้ปัญหาขาดแคลนวัคซีนโควิดกระทบอุตฯการบิน

ซีอีโอ‘โบอิง’ชี้ปัญหาขาดแคลนวัคซีนโควิดกระทบอุตฯการบิน

'เดฟ คาลฮูน' ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโบอิง กล่าวว่า ปัญหาในการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 จะทำให้การฟื้นตัวของการเดินทางล่าช้าออกไปจนถึงช่วงกลางหรือปลายฤดูร้อนนี้

นอกจากนี้ นายคาลฮูน ยังกล่าวว่า เขาหวังว่าอุปสงค์ในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวและเพื่อธุรกิจจะฟื้นตัวขึ้น เมื่อมีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น แต่กระบวนการดังกล่าวอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นอีกหลายเดือน

ขณะนี้ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ต่างก็กำลังเผชิญปัญหาในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 จนต้องประกาศลดปริมาณการส่งมอบวัคซีน ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่หลายประเทศ

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะต้องรักษาคำพูดเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนให้แก่อียู

“ยุโรปได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งแรกของโลก และเพื่อสร้างสินค้าสาธารณะสำหรับโลกอย่างแท้จริง และตอนนี้ บริษัทจะต้องส่งมอบวัคซีน โดยต้องรักษาข้อผูกพัน” นางฟอน เดอร์ เลเยน กล่าว

ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด จะมีการส่งมอบไปยังอียูต่ำกว่าเป้าหมายจนถึงปลายเดือนมี.ค. อันเนื่องจากปัญหาด้านการผลิต โดยคาดว่าจะมีการลดปริมาณการส่งมอบวัคซีนลง 60% เหลือเพียง 31 ล้านโดส

ขณะที่บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ระบุเช่นกันว่า ทางบริษัทจะลดการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 เหลือเพียง 50% ให้แก่ยุโรป โดยจะกระทบการส่งมอบช่วงสิ้นเดือนนี้จนถึงต้นเดือนหน้า

นายเอดการ์ รินเควิช รมว.ต่างประเทศลัตเวีย กล่าวว่า อียูอาจทำการฟ้องร้องแอสตร้าเซนเนก้าต่อศาลในข้อหาละเมิดสัญญาจัดส่งวัคซีนโควิด-19

นอกจากนี้ อียูยังขู่ที่จะทำการจำกัดการส่งออกวัคซีนโควิด-19 ที่มีฐานการผลิตในยุโรป โดยไฟเซอร์มีโรงงานผลิตวัคซีนอยู่ในเบลเยียม

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระบุว่า อียูจะกำหนดให้บริษัทยาทำการลงทะเบียนการส่งออกวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันการนำโควต้าวัคซีนของอียูไปส่งมอบให้แก่ประเทศอื่น

ด้านออสเตรเลียและไทยก็ประสบปัญหาการส่งมอบวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน

ขณะที่ไฟเซอร์ ระบุว่า ทางบริษัทจะทำการปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จึงทำให้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งมอบวัคซีนเป็นการชั่วคราว โดยปริมาณการส่งมอบวัคซีนจะลดลงตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนนี้จนถึงต้นเดือนหน้า โดยกระทบต่อการส่งมอบวัคซีนทุกประเทศในยุโรป แต่การส่งมอบจะเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปลายเดือนหน้า

นอกจากนี้ บริษัทโบอิง ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 4/2563 ในวันพุธ(27ม.ค.) โดยบริษัทประสบภาวะขาดทุนติดต่อกัน 5 ไตรมาส จากผลกระทบของการชะลอการผลิตเครื่องบิน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการที่เครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ที่ถูกสั่งห้ามบิน หลังจากที่เครื่องบิน 2 ลำของรุ่นดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุในปี 2561 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน

ทั้งนี้ โบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทมีตัวเลขขาดทุน 15.25 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.80 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ลดลง 37% สู่ระดับ 1.507 หมื่นล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะเดียวกัน บริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิ 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2563 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์