'เฟมินิสต์ปลดแอก' วางพวงหรีด จี้ส.ว.รื้อกม.ทำแท้ง ยกเลิกโทษเอาผิดอาญา

"เฟมินิสต์ปลดแอก” วางพวงหรีดหน้าสภาฯจี้ส.ว.รื้อกฎหมายทำแท้ง ยกเลิกโทษเอาผิดอาญากรณีอายุครรภ์เกิน12สัปดาห์

ที่รัฐสภา กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก พร้อมภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กลุ่มทำทาง และ กองทุนสนับสนุนการทำแท้งปลอดภัยนานาชาติ (SAAF) รวมตัวหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อแสดงจุดยืนด้วยกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการวางพวงหรีดไว้อาลัยให้กับกฎหมายทำแท้งฉบับใหม่ ในระหว่างที่ประชุมวุฒิสภากำลังพิจารณาในวันนี้

โดยกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก จัดการแสดง ‘ผู้หญิงไล่ตามยาทำแท้ง’ และการร้องเพลงเต้น ‘ทำแท้งลุยไฟ’ ก่อนจะร่วมกันเขียนป้ายผ้ารณรงค์ให้ยกเลิกมาตรา 301 ที่อนุญาตให้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ทำแท้งได้ แต่หากทำแท้งขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

161157973370

จากนั้น กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก ได้กล่าวปราศรัย และอ่านแถลงกาณ์ไว้อาลัยต่อกฎหมายทำแท้งว่า ภาคีเครือข่ายกว่า 37,000 คน ได้ร่วมกันลงชื่อยกเลิกในมาตรา 301 และมาตรา 305 ในเว็บไซต์ change.org พร้อมย้ำจุดยืนในการคัดค้านการกำหนดให้ทำแท้งได้เฉพาอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ เพราะการทำแท้งถือเป็นสิทธิมนุษยชนของผู้หญิง ไม่ใช่ทารกในครรภ์ ซึ่งบุคคลที่จะมีสิทธิ์ได้ จะต้องคลอดออกมาแล้ว

นอกจากนี้ ยังต้องการให้หน่วยงานหรือผู้มีอำนาจออกกฎหมายทบทวนตัวเอง เพราะแม้ว่า กฎหมายจะผ่านความเห็นชอบ ภาคีเครือข่ายก็จะเดินหน้า เพื่อขอให้มีการยกเลิกมาตรา 301 ต่อไป และนำบทลงโทษการทำแท้งออกจากกฎหมายอาญา เพราะที่ผ่านมา ภาคีเครือข่าย และแพทย์ที่วินิจฉัยเรื่องการทำแท้งไม่เคยมีส่วนร่วมในการออกกฎหมายเลย

 “แม้มีความหวังริบหรี่ แต่ก็ขอให้วุฒิสภาพิจารณากฎหมายนี้ใหม่อย่างเป็นธรรม เพราะประเทศนี้ ไม่ควรมีกฎหมายอาญาเอาผิดกับผู้หญิงทำแท้ง และคิดว่า วุฒิสภาก็คงไม่ได้แก้ไขอะไร เพราะมีใบสั่งจากรัฐบาล” ตัวแทนกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกกล่าวระหว่างปราศรัย ก่อนจะยื่นหนังสือแถลงการณ์กับตัวแทนจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาต่อไป

161157975387

นายสาธิต วงศ์อนันต์นนท์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ วุฒิสภา ได้รับมอบหมายจากนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา เป็นผู้แทนรับหนังสือ กล่าวยืนยันว่า สมาชิกวุฒิสภากำลังพิจารณากฎหมายดังกล่าว ซึ่งได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ภายใต้กรอบและอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา ทั้งนี้ หนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าวจะมอบให้เลขาธิการวุฒิสภา เพื่อส่งต่อไปยังประธานวุฒิสภาต่อไป