'ลุงหมู สาริกา' ชี้ทำแนวกั้น ไม่ช่วยแก้ปัญหาผาเดียวดาย แจงปมอาถรรพ์เจ้าพ่อเขาใหญ่

'ลุงหมู สาริกา' ชี้ทำแนวกั้น ไม่ช่วยแก้ปัญหาผาเดียวดาย แจงปมอาถรรพ์เจ้าพ่อเขาใหญ่

ผู้ก่อตั้งชมรมฅนรักษ์สัตว์-ป่า "ลุงหมู สาริกา" บอกการตั้งแนวเขตกั้นที่ผาเดียวดายไม่ใช่ทางแก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุได้ แนะติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยว ส่วนความเชื่ออาถรรพ์นั้น ไม่อาจลบหลู่เจ้าพ่อเขาใหญ่ แต่คาดเรื่องบังเอิญ

นายบดินทร์ จันทศรีคำ หรือ ลุงหมู สาริกา ผู้ก่อตั้งชมรมฅนรักษ์สัตว์-ป่า เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบว่ามีนักท่องเที่ยวพลัดตกลงที่ผาเดียวดาย ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากนั้นได้มีการประสานงานไปยังกลุ่มอนุรักษ์ต่างๆ เนื่องจากมีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในอนาคตหลังจากนี้ รวมถึงสิ่งที่ดูที่ผ่านมาว่ามีอะไรที่บกพร่องหรือเปล่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนก่อตั้งชมรมอนุรักษ์ตั้งแต่ปี 2530 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีเหตุการณ์อุบัติเหตุที่มีการพลัดหลงหรือพลัดตกหน้าผาแบบในครั้งนี้เกิดขึ้น ซึ่งทางกลุ่มอนุรักษ์จะเข้ามาดูแลตรงนี้เนื่องจากจุดผาเดียวดายเป็นที่อยู่ของเลียงผา ก็จะมีดูแลในเรื่องของน้ำและขยะที่มีจำนวนมากในพื้นที่และได้มีการเก็บขยะออกอยู่หลายครั้ง

ในส่วนที่ข่าวลืออกมาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น เกิดจากเหตุการณ์ก่อนจะมีพิธีทำบุญใหญ่อุทยานนั้น นายบดินทร์ บอกว่า ทุกวันที่ 26 มกราคม ของทุกปี กลุ่มอนุรักษ์ที่อยู่โดยรอบป่ามรดกโลกรวมไปถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานตาพญา อุทยานทับลาน เป็นต้น จะมาร่วมกันทำการสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ ซึ่งสำหรับปีนี้ได้เกิดเหตุมาแล้ว 2 ครั้งก่อนที่จะถึงวันงาน ซึ่งเหตุการณ์แรกวันที่ 15 มกราคม ที่ลานกางเต้นต์ผากล้วยไม้ เรื่องช้างป่ากับนักท่องเที่ยว และครั้งที่2 เกิดขึ้นในวันที่ 21 มกราคม มีนักท่องเที่ยวพลัดตกที่ผาเดียวดาย

เหตุการณ์ทั้งสอง อาจจะเป็นความบังเอิญ เนื่องจากอีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันงานสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ ทั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นการลบหลู่ และทุกวันที่ 26 มกราคม ของทุกปีก็จะมีการสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ต่อไป ที่จะมีการกล่าวปฏิญาณตนของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน รวมถึงชาวบ้านที่อยู่รายรอบก็จะมากราบไหว้ขอพรท่าน

ในส่วนการทำแผงกั้นผาเดียวดายนั้น นายบดินทร์ ย้อนไปสิบกว่าปีได้มีการเกิดข้อกังวลอาจะเกิดอันตรายบริเวณผาเดียวดาย ซึ่งตอนนั้นทางกรมอุทยานได้มีการออกแบบแพลตฟอร์มเป็นตัวยื่นออกไปด้านนอกหน้าผาและจะมีราวกันตก ในตอนนั้นได้มองว่าสิง่ที่สร้างขึ้นอาจจะเป็นสิ่งที่ขัดต่อธรรมชาติ ซึ่งการที่จะให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมที่ผาเดียวดายก็อยากให้มันเป็นตามธรรมชาติที่เป็นมาแต่เดิม ไม่มีวัตดุมาก่อสร้างเพิ่มเติม จึงได้มองว่าการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สามารถที่จะทำเป็นป้ายแจ้งเตือนหรือป้ายสัญลักษณ์ขึ้นมาได้ ประกอบกับทางกลุ่มอนุรักษ์ได้มีการเสนอจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลจะได้ผล100%มากกว่าการสร้างสิ่งแปลกปลอมขึ้นมาในพื้นที่ธรรมชาติ

นายบดินทร์ จันทศรีคำ หรือ ลุงหมู สาริกาเป็นบุคคลที่ที่ผูกพันอยู่กับธรรมชาติ สัตว์ป่า สายน้ำ และสิ่งแวดล้อม การได้เข้าไปรับรู้เรื่องราวของการคุกคามธรรมชาติอย่างไม่เป็นธรรม จึงทำให้ลุงหมูลุกขึ้นมาทำงานอาสาอย่างไม่รั้งรอ ด้วยสถานการณ์การคุกคามธรรมชาติและสัตว์ป่าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำลังของเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ หมู สาริกา ได้จัดตั้ง “ชมรมคนรักสัตว์-ป่า” และกลุ่ม “ฅ.ฅนทำทาง” ขึ้น เพื่อขับเคลื่อนงานอาสาในทุกมิติ ทั้งด้านสัตว์ป่า,ด้านสังคม,ด้านสิ่งแวดล้อม โดยหนุนเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในเป้าหมายที่หลากหลาย