วิเคราะห์สถานการณ์"ราคาน้ำมัน" (15 ม.ค.64)

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งสัญญาณยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นแตะระดับที่ 2% รวมถึงความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มูลค่าสูงถึงราว 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

+ ความต้องการใช้น้ำมันของจีนยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังสำนักงานศุลกากรเปิดเผยปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในปี 2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 7.3% จากปีก่อนหน้า หลังโรงกลั่นในประเทศมีการเพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้น และในช่วงที่ราคาน้ำมันตกต่ำในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2563 มีการซื้อน้ำมันดิบเพื่อไปเก็บเป็นน้ำมันสำรองในประเทศเพิ่มขึ้น

- การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายประเทศยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ให้มีความเข้มข้นและยาวนานขึ้น โดยเฉพาะจีนที่มีการพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน ทั้งนี้ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานจากอินเดียคาดจะปรับลดลง เนื่องจากโรงกลั่นในประเทศมีการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของหน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่อยู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นจากแอฟริกาใต้ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจาก ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์