'จลาจลรัฐสภาสหรัฐ'ปมเอกชนเลิกบริจาคหนุนการเมือง

'จลาจลรัฐสภาสหรัฐ'ปมเอกชนเลิกบริจาคหนุนการเมือง

'จลาจลรัฐสภาสหรัฐ'ปมเอกชนเลิกบริจาคหนุนการเมืองเป็นเวลาอย่างน้อย 6เดือน ด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุเหตุวุ่นวายที่สร้างความอับอายแก่สหรัฐไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนการเลือกตั้งกลางเทอมปี2565

“สตีฟ โอ ฮอลโลแรน” โฆษกเจพีมอร์แกน ธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐในแง่ของมูลค่าสินทรัพย์ ระบุว่า ภาพเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่สร้างความอับอายขายหน้าไปทั่วโลก ทำให้บรรดาวานิชธนกิจและธนาคารชั้นนำของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และบริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ พร้อมใจกันยุติการให้เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนทางการเมืองทั้งต่อพรรคเดโมแครต และพรรรีพับลิกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน

ซิตี้กรุ๊ป ก็แสดงเจตน์จำนงค์ลักษณะเดียวกัน ด้วยการระงับการบริจาคเงินสนับสนุนทางการเมืองแก่บรรดาส.ส.ทุกคนในช่วงไตรมาสแรก ส่วนบิลล์ ฮอลล์ดิน โฆษกแบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่าสถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองที่อาคารรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะเป็นตัวแปรในการตัดสินใจบริจาคเงินสนับสนุนทางการเมืองของธนาคารก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมปี2565

การโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการโจมตีต่อสถาบันพื้นฐานของประชาธิปไตย เริ่มเปิดฉากขึ้นเมื่อผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หลายร้อยคนบุกเข้าอาคารรัฐสภา ขณะที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐกำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน

หลังเหตุการณ์ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อเหตุบุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐมีผู้ก่อจลาจลหลายคนที่ถูกตามจับกุมตัว และหลายคนที่ต้องออกจากงาน ทั้งที่ลาออกเองและถูกไล่ออก เริ่มจาก เมื่อวันเสาร์(9ม.ค.)นายเดอร์ริก เอฟวานส์ สมาชิกรัฐสภารัฐเวสต์เวอร์จิเนีย จากพรรครีพับลิกัน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธที่แล้ว โดยเอฟวานส์ถ่ายรูปเซลฟี่และออกอากาศสดผ่านเฟซบุ๊คขณะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ต่อมาเขาถูกตั้งข้อหาบุกรุกเขตหวงห้ามและประพฤติผิดระเบียบ ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิด จะต้องโทษจำคุกราว 1 ปี 6 เดือน

นอกจากนี้ มีผู้ก่อจลาจลอีกหลายคนที่ถูกจับกุมเช่นกัน รวมทั้ง ริชาร์ด บาร์เน็ตต์ จากรัฐอาร์คันซอส์ ผู้บุกเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของ“แนนซี เพโลซี”ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวางเท้าบนโต๊ะของเธอ ซึ่งเป็นภาพที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลายทางอินเทอร์เน็ต ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์และอาจต้องโทษจำคุกหนึ่งปี

“จาค็อบ แอนโธนี ชานสลีย์” ชายหนุ่มผู้สวมหมวกขนสัตว์มีเขาสองข้างและทาหน้าเป็นสีธงชาติอเมริกัน ถูกจับกุมในวันเสาร์และมีกำหนดให้การต่อศาลในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ ยังมีผู้บุกรุกรัฐสภาอีกหลายคนที่ปรากฎใบหน้าตามสื่อต่าง ๆ ราว 40 คนที่ถูกจับกุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาบุกรุกเขตหวงห้าม ละเมิดมาตรการเคอร์ฟิว ขโมยทรัพย์สินของรัฐบาล ละเมิดกฎหมายอาวุธปืน และก่อความวุ่นวาย และเหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตห้าคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน

ขณะที่ผลสำรวจความเห็นชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (10ม.ค.)ระบุว่า 56% ของกลุ่มตัวอย่างมองว่า ปธน.ทรัมป์ ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งจนถึงวันที่ 20 ม.ค. และ 67% มีความเห็นว่า ปธน.ทรัมป์ คือคนที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และหนึ่งในนั้นคือตำรวจประจำรัฐสภา

ผลสำรวจความเห็นชาวอเมริกันล่าสุด ยังบ่งชี้ว่า มีกลุ่มตัวอย่างที่สังกัดพรรคเดโมแครต 94% มองว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ควรถูกถอดจากตำแหน่งก่อนที่นายไบเดนจะเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างสังกัดพรรครีพับลิกันเพียง 13% ที่มองแบบเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างด้านทัศนคติทางการเมืองของชาวอเมริกันในยุคปัจจุบัน

ผลสำรวจชิ้นนี้ยังระบุว่า มีชาวอเมริกันที่ชอบพรรครีพับลิกันเพียง 14% ที่เห็นว่านายไบเดนจะสามารถปกป้องประชาธิปไตยของประเทศไว้ได้ เทียบกับผู้ที่ชื่นชอบพรรคเดโมแครต 94% ที่เชื่อว่านายไบเดนจะทำได้

เหตุโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐที่เป็นข่าวไปทั่วโลก ยังทำให้ทีมงานของทรัมป์ทะยอยลาออกจากตำแหน่งเพราะรับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ เริ่มจาก“เอเลน เชา”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐ

ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันพฤหัสบดี(7ม.ค.) ถือเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ลาออกหลังเกิดเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันพุธ (6ม.ค.)

รมต.เชา เป็นภรรยาของ ส.ว.มิตช์ แม็คคอนแนลล์ ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดทางการเมืองกับผู้นำสหรัฐ บอกว่า เธอรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรุกรัฐสภา ซึ่งหลังจากการลาออกของเธอไม่กี่ชั่วโมง สื่อหลายแห่ง รวมทั้ง ซีเอ็นเอ็น และวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า "เบตซี ดีวอส"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ ก็ยื่นใบลาออกเพราะการจลาจลเมื่อวันพุธเช่นกัน

รัฐมนตรีทั้งสองคนเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทยอยลาออกจากตำแหน่งหลังเหตุการณ์จลาจลดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ “มิค มัลวานีย์”อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งทูตพิเศษประจำไอร์แลนด์เหนือ พร้อมให้เหตุผลว่า ไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป