การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจทำให้ตลาดผันผวน

แม้การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งบวกต่อกลุ่มธนาคารและโภคภัณฑ์ แต่การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ กดดันกระแสเงินทุนไหลเข้าในระยะสั้น ประกอบกับหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัญฐฯ ปรับขึ้นเร็วเกินไปอาจส่งผลลบต่อต้นทุนการกู้ยืม และเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งกว่าจะมีความชัดเจนคาดว่าจะเป็นหลังประชุมเฟด 26-27 ม.ค. (ตลาดรอดูการส่งสัญญาณมุมมองทางเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการใช้มาตรการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร)

ตลท.หารือมาตรการสกัดหุ้นที่มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนต่ำ โดยอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางที่เป็นไปได้และยังไม่มีข้อสรุป เราคาดมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนนิยมของหุ้นหมุนเวียนในมือรายย่อย (free float) ซึ่งจากเดิมตลาดใช้เกณฑ์นับผู้ลงทุนที่ถือหุ้นต่ำกว่า 5% อาจถูกปรับลดเป็นเป็น 3-4% ซึ่งเป็นแนวทางที่ง่ายที่สุด ย่างไรก็ตามอาจส่งผลให้หุ้นมีโอกาสติด cash balance ง่ายขึ้น เนื่องจากโอกาสซื้อขายในหนึ่งสัปดาห์ถึงระดับ 30% ของหุ้นหมุนเวียนเกิดได้ง่ายขึ้น

คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมตลาดในระยะกลาง-ยาว. แม้ตลาดอาจผันผวนจากความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวที่บิดเบือนภาพดัชนี แต่มีผลต่อหุ้นรายตัวในธีมลงทุนหลักที่เกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่มากนัก โดยเรายังคงมองบวกในหุ้นกลุ่ม พลังงาน, ปิโตรฯ, และการแพทย์ มากกว่าตลาด  ระยะสั้นคาดกลุ่มโรงไฟฟ้าและหุ้นปลอดภัยมีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดี แต่ให้ระวังการถูกทยอยลดน้ำหนักการลงทุน เพื่อหมุนเข้ากลุ่มที่อิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจในระยะถัดไป

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองเชิงบวกต่อ ภาพระยะกลาง-ยาว ยังคงกลยุทธ์เลือกรายตัว และเน้นซื้อในเชิงตั้งรับ และหากมีการปรับลงแรง ติดตามคุณภาพลูกหนี้ และหนี้เสียจากการประกาศงบกลุ่มธนาคาร 14-21 ม.ค. // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ADVANC*, TIP*, BDMS*, PTG*

แนวรับ 1,520 จุด / แนวต้าน : 1,550 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

IMF คาดเศรษฐกิจจีนปี 64 โต 7.9%. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดเศรษฐกิจจีนปี 2564 จะขยายตัวได้ที่ระดับ 7.9% จากปี 2563 ที่ 1.9% จากผลของกิจการรมทางเศรษฐกิจที่ปรับเข้าสู่ภวะปกติหลังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้

โควิดทุบตัวเลขจ้างงานสหรัฐดิ่งครั้งแรกในรอบ 8 เดือน. กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาพเกษตร เดือน ธ.ค. ลดลง 140,000 ตำแหน่ง สวนทางที่คาดเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ECB คาดเศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวในไตรมาส 4/63 เหตุล็อกดาวน์รอบใหม่. ธนาคารกลางยุโรปชี้ว่าเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรโซนช่วงไตรมาส 4.63 มีแนวโน้มปรับตัวลงจากการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ โดยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจระยะกลางจะเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โรคระบาดและความสำเร็จในการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

คาดการณ์กำไรกลุ่มเอเชียโต 20% ในปี 64. ยูบีเอส-โกลด์แมน แซคส์ ประสานเสียงชี้กำไรในเอเชียอาจพุ่งขึ้นมากกว่า 20% ในปีนี้ โดยโกลด์แมนมองกำไรในเอเชียจะฟื้นตัวมากถึง 24%-25% ในปีนี้ ขณะที่ยูบีเอสมองจะมีการตามล่าผลตอบแทนต่อไปท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยต่ำ

ค่าระวางเรือ – ดัชนี BDI ปิดที่ 1,606 จุด เพิ่มขึ้น 10.91% บวกต่อแรงเก็งกำไรหุ้น

ประเด็นติดตาม: - 13 ม.ค. : US CPI เดือน ธ.ค.// 14 ม.ค. : US Beige Book / Chinese Trade Balance// 15 ม.ค. : US Industrial Production เดือน พ.ย. // 21 ม.ค. : ECB meeting // 27 ม.ค. – ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)