ททท.การันตี! โรงแรมได้รับค่าห้องส่วนรัฐช่วยจ่าย40%แน่นอน กรณีลูกค้าเลื่อนจอง "เราเที่ยวด้วยกัน"

ททท.การันตี! โรงแรมได้รับค่าห้องส่วนรัฐช่วยจ่าย40%แน่นอน กรณีลูกค้าเลื่อนจอง "เราเที่ยวด้วยกัน"

ผู้ว่าการ “ททท.” การันตี กรณีลูกค้าเลื่อนการจองโรงแรมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จากเหตุสุดวิสัยโควิด ทางโรงแรมจะได้รับค่าห้องส่วนรัฐช่วยจ่าย 40% แน่นอน ไม่ต้องเรียกเก็บจากประชาชนเพิ่ม

จากกรณีการเลื่อนหรือยกเลิกการจองที่พักในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากเหตุสุดวิสัยโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินทางตามกำหนดเดิมได้ เพราะต้องให้ความร่วมมือตามมาตรการด้านสาธารณสุขของรัฐ และบางพื้นที่อยู่ในเขตควบคุมสูงสุด

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวยืนยันว่า ในกรณีที่ประชาชนขอ “เลื่อนการจอง” ทางโรงแรมจะยังได้รับค่าห้องส่วนรัฐช่วยจ่าย 40% แน่นอน ไม่ต้องเรียกเก็บจากประชาชนเพิ่ม และถ้าเป็นไปได้อยากให้ประชาชนเลื่อนการจองไปเข้าพักหลังเดือน ม.ค.นี้จะดีกว่า เพื่อรอให้ทางธนาคารกรุงไทยแก้ไขปรับปรุงระบบแล้วเสร็จซึ่งคาดว่าน่าจะเรียบร้อยภายใน 2-3 สัปดาห์นับจากนี้

ทั้งนี้ ททท.ได้หารือกับทางสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ให้รีบแจ้งไปยังสมาชิกโรงแรมทุกรายให้ร่วมกันช่วยเหลือลูกค้าที่ใช้สิทธิจองห้องพักผ่านโครงการฯ แล้วต้องการยกเลิกหรือเลื่อนการจองออกไปก่อน โดยทางโรงแรมต้องบันทึกรายละเอียดเป็นหลักฐานเอาไว้ เพราะตอนนี้ระบบของโครงการเราเที่ยวด้วยกันอยู่ระหว่างการปรับปรุง ยังไม่สามารถทำการเลื่อนผ่านระบบได้ เมื่อระบบแล้วเสร็จ ทางโรงแรมค่อยมาแจ้งในระบบอีกที

“เรื่องการเลื่อนการจอง เบื้องต้นขอให้ได้เฉพาะผู้ที่ได้จองที่พักในจังหวัดที่อยู่ในรายชื่อพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามที่รัฐบาลประกาศก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถเดินทางไปได้ และการเลื่อนการจองก็ขอให้สิ้นสุดในเดือน เม.ย.นี้เท่านั้นตามระยะเวลาของโครงการ ทั้งนี้หากลูกค้าเลื่อนการจองที่พักไปตรงกับช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ซึ่งราคาที่พักจะมีการปรับสูงขึ้นตามดีมานด์การเดินทาง เพิ่มจากราคาที่จองไปก่อนหน้า ทางประชาชนต้องจ่ายส่วนต่างของราคาที่เพิ่มขึ้นด้วย และแน่นอนว่าส่วนรัฐช่วยจ่าย 40% ก็จะปรับตามส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านความคืบหน้าของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 พบว่ามีประชาชนลงทะเบียนรวม 7.32 ล้านคน แบ่งเป็นลงทะเบียนสำเร็จ 6.99 ล้านคน ลงทะเบียนไม่สำเร็จ 0.3 ล้านคน ซึ่งสามารถลงทะเบียนใหม่ได้

ส่วนจำนวนผู้ประกอบการที่มาลงทะเบียน พบว่ามีโรงแรมและที่พักรวม 8,564 แห่ง ร้านอาหาร 67,707 ร้าน สถานที่ท่องเที่ยว 2,104 แห่ง OTOP 1,389 แห่ง ส่วนร้านสปา นวด และขนส่งเพื่อท่องเที่ยว 230 แห่ง

ขณะที่ภาพรวมการใช้สิทธิ มีการใช้สิทธิโรงแรมแล้ว 5,121,311 สิทธิ จาก 6 ล้านสิทธิ มูลค่าห้องพักที่จองทั้งหมด 13,620.1 ล้านบาท (จ่ายโดยประชาชน 8,395.2 ล้านบาท รัฐสนับสนุน 5,224.9 ล้านบาท) ราคาเฉลี่ยห้องพักต่อคืน 2,728 บาท จำนวนโรงแรมที่มีการจองทั้งสิ้น 5,343 แห่ง

มีผู้ที่ได้รับคูปองอาหาร 1,180,232 ราย ยอดใช้จ่ายทั้งหมด 5,906.9 ล้านบาท (ยอดใช้จ่ายประชาชน 3,621.9 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายผ่านคูปอง 2,285 ล้านบาท)

ส่วนบัตรโดยสารเครื่องบิน มีผู้ลงทะเบียนได้รับสิทธิเงินคืนค่าบัตรโดยสารแล้ว 151,195 ราย จำนวน booking ผ่านการตรวจสอบ 201,136 booking จำนวนบัตรโดยสาร/ผู้โดยสารที่ได้รับสิทธิแล้ว 357,752 สิทธิ จากโควตาทั้งหมด 2 ล้านสิทธิ มูลค่าบัตรโดยสารที่ได้รับสิทธิ 951.62 ล้านบาท (จ่ายโดยประชาชน 627.22 ล้านบาท รัฐบาลสนับสนุน 324.40 ล้านบาท)

“ปัจจุบันโครงการเราเที่ยวด้วยกันได้ทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว 2 หมื่นล้านบาท แยกเป็นจำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนงบประมาณทั้งค่าที่พัก คูปอง บัตรโดยสาร 7,834.3 ล้านบาท ส่วนประชาชนใช้จ่าย 12,644.32 ล้านบาท” ผู้ว่าการ ททท.กล่าวปิดท้าย