"ทีมเพื่อไทย" หวั่น "เศรษฐกิจล้มละลาย" จี้ "รัฐบาล" แก้ปัญหาบ่อน-ปรับเงินกู้ซอฟท์โลน-งบ65 สู้โควิด

        พรรคเพื่อไทย นำโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์วงลี อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง ร่วมเสวนา เรื่อง “ประชาชนการ์ดไม่ตก รัฐบกพร่อง ร่วมหาทางออกกับพรรคเพื่อไทย”  

        โดยนพ.สุรพงษ์ กล่าวว่าการระบาดของโควิด-19 ถือเป็นการระบาดระลอกสอง ที่เกิดขึ้นจากรัฐบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ ทั้งนี้การระบาดระลอกสองต้องไม่ประมาท กับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันมีอัตราผู้ป่วยเสียชีวิตต่ำ แต่พบการแพร่กระจายได้จำนวนมาก โดยสายพันธุ์ที่เจอปัจจุบันคาดว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ที่เจอครั้งแรก ขณะที่การรักษาพยาบาลมีความก้าวหน้า เพราะมีวัคซีนรักษา นอกจากนั้นระบบคัดกรอง, อาสาสมัครสาธารณสุข, สถานที่พยาบาลมีความพร้อม  ทั้งนี้ประชาชนสามารถป้องกันการรับและแพร่เชื้อ โดยสวมหน้ากากอนามัย และสวมเฟซชิล์ด รวมถึงลดการเข้าไปยังพื้นที่แออัด

           “ตอนนี้ความกลัวน่าจะลดลง แม้จะพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เพราะแม้ระบาดจำนวนมาก แต่อัตราการเสียชีวิตน้อยลง ส่วนการป้องกันเชิงระบาดวิทยา ควรทำอย่างจริงจังและเข้มงวด ด้วยการล็อคเฉพาะจุด ไม่หว่านแหทั้งนี้ยอมรับว่าการระบาดระลอกสองนั้นเกิดจากการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ซึ่งยังไม่เห็นว่าคนที่เกี่ยวข้องได้รับการลงโทษ และบ่อนในหลายพื้นที่ ดังนั้นรัฐบาลต้องล็อคการนำเข้าแรงงานต่างชาติ และบ่อนการพนัน นอกจากนั้นต้องลงพื้นที่จุดเสี่ยง รวมถึงดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ด้วย” นพ.สุรพงษ์ กล่าว

 

          ทั้งนี้ นายประเสริฐ กล่าวตอนหนึ่งโดยเชื่อว่ากรณีที่รัฐละเลยต่อการจัดการกับบ่อนการพนัน ทำให้เกิดการชุมนุมและรวมตัว จนเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระจายตัวไปวงกว้าง ดังนั้นขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง 

 

        ขณะที่นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า พักหนี้ หยุดเก็บ แต่ยังคำนวณเป็นดอกเบี้ยค้างรับ ทำให้ลูกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยทบเงินต้น ทั้งนี้การจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ ปี 2563 พลาดเป้ากว่า 3 แสนล้านบาททำให้เกิดภาวะอันตรายต่อสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้การประกาศล็อคดาวแบบเหวี่ยงแห จะมีความเสี่ยงต่อการว่างงาน และเสมือนว่างงานอย่างรุนแรง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจที่มาจากกำลังซื้อของประชาชนที่ประคองธุรกิจ ดังนั้นการล็อคดาวเพื่อหยุดการแพร่เชื้อต้องทำอย่างจำกัด ขณะเดียวกันต้องให้ความรู้กับประชาชน เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่พื้นที่ล็อคดาวนั้น ผู้ได้รับผลกระทบต้องได้รับการช่วยเหลือ และเยียวยาอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว เช่นเดียวกันการพักชำระหนี้ เพื่อไม่ให้ภาคธุรกิจล่มสลาย 

        นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่านอกจากนั้นต้องทบทวนหลักเกณฑ์ปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ ตาม พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นอกจากนั้นต้องปรับแก้รายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ให้สอดคล้องกันการแก้ปัญหาที่นำไปสู่การล้มละลายทางการคลังของรัฐบาล